นางสาวสุมิตรา ตั้งสมวรพงษ์ ฝ่ายวิจัย สถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่าจากการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน (CEO Survey) ในช่วงครึ่งปีแรกปี 2561 พบว่าผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2561 มีแนวโน้มดีขึ้น โดยเติบโตในช่วง 3% ถึง 4% มีปัจจัยด้านการท่องเที่ยว นโยบายการคลังและการใช้จ่ายภาครัฐ และเสถียรภาพของการเมืองในประเทศเป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทย
ทั้งนี้ปัจจัยเสี่ยงสำคัญในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2561 ประกอบด้วยความผันผวนของค่าเงินบาท เสถียรภาพของการเมืองในประเทศ และอัตราค่าแรงที่สูงขึ้นน่าจะเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ซึ่งแตกต่างจากการสำรวจครั้งก่อนที่มองว่าความเสี่ยงจะมาจากกำลังซื้อในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัว หนี้สินภาคครัวเรือนที่เป็นปัญหาเรื้อรัง และเสถียรภาพของการเมืองภายในประเทศ
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
ขณะที่ CEO ส่วนใหญ่กว่า 64% คาดการณ์ว่าภาวะอุตสาหกรรมที่ตนเองดำเนินการอยู่จะปรับตัวดีขึ้น โดยมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากการสำรวจครั้งก่อนที่อยู่ระดับ 45% พร้อมคาดการณ์ว่าผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนจะดีขึ้นและรายได้ของบริษัทจะเติบโตดีขึ้นจากการคาดการณ์ในการสำรวจครั้งก่อน ทั้งนี้ CEO ส่วนใหญ่คาดว่ารายได้เติบโตมากกว่า 3% และ CEO จำนวนครึ่งหนึ่งคาดว่ารายได้จะเติบโตมากกว่า 6%
ส่วนสำหรับแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2561 CEO ส่วนใหญ่คาดว่าต้นทุนการผลิตปรับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะต้นทุนแรงงานที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนจากผลของประกาศเปลี่ยนแปลงอัตราค่าแรงขั้นต่ำ เช่นเดียวกับราคาวัตถุดิบที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น แต่ยังคาดว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น และสภาพคล่องของบริษัทฯ ดีขึ้น
นอกจากนี้ CEO ส่วนใหญ่วางแผนจะขยายการลงทุนในปี 2561 ต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า ทั้งการขยายการลงทุนในต่างจังหวัดและต่างประเทศ โดยประเทศเป้าหมายการลงทุน ได้แก่ ประเทศในอาเซียน เอเชียใต้ ตะวันออกกลาง อเมริกาใต้ เป็นต้น โดยแหล่งระดมทุนหลัก 3 อันดับแรก คือ สินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์ กำไรสะสม และการออกหุ้นกู้ภายในประเทศ