SCB มองเฟดคงดอกเบี้ย กดเงินบาทแข็งค่า 35-36 บาท หนุน กนง.ตรึงดอกเบี้ยถึงปี’67

SCB ไทยพาณิชย์ ธนาคารไทยพาณิชย์ ดอกเบี้ย เงินฝาก เงินกู้

ธนาคารไทยพาณิชย์ มองเฟดคงดอกเบี้ยนโยบายตามคาดที่ 5.25-5.50% สูงที่สุดในรอบ 22 ปี เชื่อยังไม่ปิดโอกาสในการขึ้นดอกเบี้ยต่อ หนุน กนง.คงดอกเบี้ยยาวถึงสิ้นปี 2567 พร้อมประเมินเงินบาทสิ้นปี 2566 แนวโน้มแข็งค่ากรอบ 35.00-36.00 บาทต่อดอลลาร์

วันที่ 3 พฤศจิกายน 2566 นายแพททริก ปูเลีย ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานตลาดการเงิน สายงานตลาดการเงิน กลุ่มธุรกิจ Wholesale Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า หลังคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเอกฉันท์ให้คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 5.25-5.50% ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดในรอบ 22 ปี และเป็นการคงดอกเบี้ยใน 2 การประชุมติดต่อกัน

โดยคณะกรรมการกล่าวในคำแถลงหลังการประชุมว่า ภาวะการเงินและภาวะสินเชื่อของครัวเรือนและธุรกิจที่ เข้มงวดขึ้น มีแนวโน้มส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจ การจ้างงาน และเงินเฟ้อ ชะลอลงในระยะต่อไป

               

อย่างไรก็ดี เฟดยังส่งสัญญาณว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะยาว (Long-term US Treasury yields) ที่อยู่ในระดับสูง ทำให้ความจำเป็นในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายมีน้อยลง

อย่างไรก็ตาม เฟดยังไม่ปิดโอกาสในการขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง โดย Powell กล่าวว่า หากเศรษฐกิจยังขยายตัว สูงกว่าเทรนด์ระยะยาว หรือตลาดแรงงานยังตึงตัวต่อเนื่อง ก็อาจเป็นแรงกดดันต่อเงินเฟ้อเพิ่มเติม ทำให้ Fed อาจต้องกลับมาขึ้นดอกเบี้ยได้ สำหรับนโยบายด้านการลดขนาดงบดุล (Quantitative tightening : QT) เฟดยังไม่ได้หารือเรื่องการเปลี่ยนแนวทางการดำเนินมาตรการ

ทั้งนี้ จากภาพรวมดังกล่าว SCB FM ประเมินว่า US Treasury yields มีแนวโน้มลดลงและเงินดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มอ่อนค่า ซึ่งจะส่งผลดีต่อสินทรัพย์เอเชีย รวมถึงค่าเงินบาท ความผันผวนในตลาดการเงินลดลงหลังการประชุม FOMC

โดยคาดว่าเฟดจะคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 5.25-5.50% ต่อเนื่องจนถึงกลางของปี 2567 และอาจลดดอกเบี้ยครั้งแรกในช่วงไตรมาสที่ 3 เป็นอย่างเร็ว

สำหรับมุมมองอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (US Treasury yields) ที่ล่าสุดปรับลดลงจาก 4.90% มาที่ราว 4.70% นั้น SCB FM ยังคงมุมมองเดิมที่ได้เสนอไปเมื่อเดือนก่อน โดยมองว่า 10-year Treasury yields มีแนวโน้มลดลงไปสู่กรอบ 4.60-4.80% ในช่วงสิ้นปีนี้

นอกจากนี้ ปัจจัยด้านอุปทานที่กดดันให้ Yields ปรับขึ้นก่อนหน้านี้ก็ลดลงแล้ว หลัง US Treasury ประกาศ ตัวเลขพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่จะออกในระยะต่อไป น้อยกว่าที่นักลงทุนกังวลก่อนหน้านี้ โดย Treasury จะขายพันธบัตรระยะยาว 1.12 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่ำกว่าที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้ที่ราว 1.14 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ จึงทำให้ปัจจัยที่ดันให้ Yields ให้สูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมาเริ่มหมดไป

สำหรับมุมมองค่าเงินบาท SCB FM ประเมินว่า แรงกดดันที่ทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าในช่วงที่ผ่านมา จะทยอยหมดไปตาม Yields ที่น่าจะลดลง และด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่จะฟื้นตัวต่อเนื่อง ทำให้เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าได้ตามที่ SCB FM ได้ประเมินไว้ โดยเรายังคงมุมมองว่าเงินบาทจะอยู่ในกรอบ 35.00-36.00 บาทต่อดอลลาร์ณ สิ้นปีนี้ และแข็งค่าขึ้นต่อไปอยู่ที่ 33.00-34.00 บาทต่อดอลลาร์ ณ สิ้นปี 2567

ด้านอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย SCB FM ประเมินว่า กนง. น่าจะคงดอกเบี้ยต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี 2567 อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามความเสี่ยงด้านสูงจากมาตรการภาครัฐขนาดใหญ่ที่อาจทำให้เศรษฐกิจไทยและเงินเฟ้อออกมาสูงกว่าคาด และอาจกดดันการดาเนินนโยบายการเงินต่อไปได้

อย่างไรก็ดี ด้วยแนวโน้มที่เฟดจะคงดอกเบี้ยไปจนถึงกลางปีหน้าเป็นอย่างน้อย ทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐและไทยมีแนวโน้มทรงตัวและอาจปรับลดลงได้ในปี 2567 จึงทำให้ความจำเป็นที่ต้องขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินไหลออกและลดการอ่อนค่าของค่าเงินมีน้อยลงด้วย