FETCO จ่อหารือคลัง 14 พ.ย.นี้ ขอปรับเงื่อนไขกองทุน SSF ก่อนหมดอายุปี’67

กองทุนหุ้น

สภาธุรกิจตลาดทุนไทย หรือ FETCO เผยเตรียมเข้าพบกระทรวงคลัง 14 พ.ย.นี้ จ่อขอปรับเงื่อนไขกองทุน SSF หลังจะครบกำหนดสิ้นปี 2567 นี้ พร้อมประเมินฟันด์โฟลว์ยังไหลออกก่อนกลับมาในปีหน้า แนะตลาดหุ้นไทยมีโอกาส กลุ่มธนาคาร-ท่องเที่ยวน่าสนใจ

วันที่ 13 พฤศจิกายน 2566 ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ในฐานะประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) และกรรมการรองผู้จัดการใหญ่ และเลขานุการบริษัท ธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า ภายในวันที่ 14 พฤศจิกายนนี้ FETCO จะเข้าพบคณะทีมทำงานกระทรวงการคลัง เพื่อหารือเกี่ยวกับกองทุนเพื่อการออม (SSF) ที่จะหมดอายุในปี 2567

สำหรับประเด็นในการหารือเบื้องต้น คือ ความคืบหน้าของกองทุน SSF ที่ครบอายุว่าจะมีการต่ออายุกองทุนหรือไม่อย่างไร หากมีการต่ออายุกองทุนอยากให้มีการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขลงทุนให้เหมือนกับกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) คือ เน้นลงทุนในตลาดหุ้นไทยเป็นหลัก รวมถึงระยะเวลาการลงทุนให้ต่ำกว่า 10 ปี เนื่องจากการกำหนด 10 ปี เป็นระยะเวลาที่ค่อนข้างนานไป ซึ่งเชื่อว่าหากมีการปรับเงื่อนไขการลงทุนดังกล่าว จะหนุนให้ตลาดหุ้นไทยกลับมาคึกคักได้

“เราจะมีนัดคุยกับกระทรวงการคลังภายในวันที่ 14 พ.ย.นี้ เพื่อเสนอการปรับเงื่อนไขกองทุน SSF หากครบกำหนด โดยจะเสนอให้มาใช้เงื่อนไข LTF ซึ่งต้องรอดูว่าภาครัฐจะสามารถให้อะไรได้มากน้อยแค่ไหน”

ดร.กอบศักดิ์ กล่าวว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยที่ตกลงนั้น มองว่าไม่ต้องตกใจ เนื่องจากมีความมั่นใจศักยภาพไทยในระยะยาว และหากมองว่าเป็นจังหวะ “ถือ” และ “ทยอยซื้อ” หุ้นไทยในหุ้น โดยเฉพาะในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่มีการจ่ายปันผลดี เพราะถ้าดูจะเห็นว่ามีเงินกองทุน และฐานะที่แข็งแกร่ง และกำไรค่อนข้างดี จึงเป็นกลุ่มที่น่าลงทุน

ขณะที่แนวโน้มเงินทุนเคลื่อนย้าย (ฟันด์โฟลว์) มองว่าปีนี้อาจจะยังไม่กลับมา เนื่องจากเงินไหลกลับเข้าสหรัฐ ภายหลังจากเฟดทำมาตรการอัดฉีดสภาพคล่องเชิงปริมาณ (QE) ดูดสภาพคล่อง 1 ล้านล้านดอลลาร์

ดังนั้น โอกาสเงินทุนจะไหลกลับมาไทยไม่เยอะ อย่างไรก็ดี หากสถานการณ์ต่าง ๆ ดีขึ้น เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวดีขึ้น เชื่อว่าฟันด์โฟลว์จะกลับมาได้ในปี 2567 ทั้งตลาดไทยและอาเซียน

“ปีนี้การลงทุนบอนด์ต่างประเทศจะเป็นการลงทุนที่น่าสนใจ เพราะดอกเบี้ยสูง และเริ่มทยอยลง ราคาบอนด์ยีลด์สหรัฐจะดี บวก 10-11% ส่วนทองคำไม่มีสงครามจะยาก แต่หุ้นไทยก็เป็นโอกาสน่าสนใจจากที่ตกไปเหลือ 1,300 จุด หุ้นธนาคารถือว่าใช้ได้ หุ้นท่องเที่ยวก็น่าสนใจ”