วันนี้ จับตา “สินมั่นคงประกันภัย” ศาลนัดฟังคำไต่สวนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ

สินมั่นคง

วันนี้ จับตา “สินมั่นคงประกันภัย” ศาลนัดฟังคำไต่สวนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ หลังมีการยื่นคัดค้านกระบวนการลงมติล่วงหน้า-ขอนับคะแนนโหวตใหม่

วันที่ 15 ธันวาคม 2566 รายงานข่าวระบุว่า ในวันนี้ (15 ธันวาคม 2566) ศาลล้มละลายกลางได้มีการนัดฟังคำไต่สวนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทสินมั่นคงประกันภัย ซึ่งจะพิจารณาออกเป็น 2 เรื่องคือ 1.กรณีที่มีผู้คัดค้านของเจ้าหนี้สินมั่นคงประกันภัยในการโหวตแผนฟื้นฟูกิจการไม่ชอบด้วยกฎมาย และ 2.การที่บริษัทสินมั่นคงประกันภัยขอนับคะแนนโหวตแผนฟื้นฟูกิจการใหม่ ซึ่งคาดว่าจะเห็นภาพความชัดเจนขึ้นหลังเวลา 12.00 น. เป็นต้นไป

แหล่งข่าวเจ้าหนี้ของบริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ SMK เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ก่อนหน้านี้ ว่า การประชุมเจ้าหนี้ทั้ง 18 กลุ่ม เพื่อพิจารณาโหวตแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทสินมั่นคงประกันภัยในวันที่ 27 ก.ย. 2566 นั้น มีมติ “ไม่ยอมรับแผน” ในสัดส่วน 52.72% ขณะที่มีผู้ยอมรับแผน 47.28%

โดยเจ้าหนี้โควิดกลุ่มที่ 2 (เจ้าหนี้ค่าสินไหมโควิด เจอจ่ายจบ และ 2 in 1 ที่ยังไม่ได้รับการชำระ) ไม่ยอมรับแผนจำนวน 76,210 ราย จำนวนเงิน 6,650.17 ล้านบาท สัดส่วน 53.28% และกลุ่มที่ 3 (เจ้าหนี้ค่าสินไหมโควิด เจอจ่ายจบ และ 2 in 1 ที่ได้รับการชำระแล้วบางส่วน) จำนวน 526 ราย จำนวนเงิน 34.64 ล้านบาท สัดส่วน 64.80%

ทั้งนี้เจ้าหนี้ที่มีการลงมติประชุมทั้งหมดทุกกลุ่ม ทั้งยอมรับแผน ไม่ยอมรับแผน และงดออกเสียง มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 149,603 ราย คิดเป็นจำนวนเงิน 12,940.88 ล้านบาท

ต่อมาศาลล้มะลายกลางได้มีการกำหนดวันพิจารณาคือวันที่ 1 พ.ย. 2566 เพื่อพิพากษา แต่ก็เลื่อนพิจารณามาเป็นวันที่ 15 ธ.ค. 2566

ซึ่งตามกระบวนการทางกฎหมายเมื่อ “ไม่ผ่านแผน” ศาลจะมีคำสั่งยุติการฟื้นฟูกิจการ โดยยกเลิกการให้ฟื้นฟูกิจการ ทำให้ทุกอย่างจะกลับกระบวนการเหมือนกรณีไม่เคยเกิดการฟื้นฟูกิจการมาก่อน สิทธิทุกอย่างจะหวนกลับคืนมาเหมือนเดิมทั้งหมด เจ้าหนี้สามารถฟ้องร้องดำเนินคดีได้ และอำนาจทั้งหมดจะกลับมาอยู่ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ดังนั้นต้องจับตาสำนักงาน คปภ. ว่าจะเทกแอ็กชั่นเรื่องนี้ต่อไปอย่างไรในระยะนี้

อย่างไรก็ตามหลังจากนับผลคะแนนออกมา “ไม่ยอมรับแผน” ทางด้านผู้แทนของบริษัทสินมั่นคงประกันภัย ขอใช้สิทธิทางกฎหมาย “ทำการคัดค้านการนับคะแนนในครั้งนี้ เพื่อนับคะแนนใหม่อีกครั้ง” ซึ่งการคัดค้านจะต้องทำหนังสือคำคัดค้านต่อศาลล้มละลายกลาง และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะต้องมานับคะแนนใหม่ และในกรณีนี้ศาลจะไปยืนพิจารณาด้วย และพร้อม ๆ กับตัวแทนเจ้าหนี้

ส่วนแนวทางผู้เพิ่มทุน ทางบริษัทสินมั่นคงประกันภัยเคยพูดไว้ก่อนการโหวตแผนว่า ยังมีความมั่นใจเพราะดีลผู้เพิ่มทุนไว้แล้ว 2 รายคือ 1.บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) และ 2.บริษัท พรีฟอร์มม่า จำกัด ซึ่งทั้งสองมีเงื่อนไขคือ ต้องผ่านแผนฟื้นฟูกิจการ

สำหรับเงื่อนไขกรุงเทพประกันภัยกำหนดไว้ 3 อย่างคือ 1.ผ่านแผนฟื้นฟูฯ 2.ถ้าผ่านแล้วมูลค่ากิจการของสินมั่นคงประกันภัยเหลืออยู่เท่าไร 3.ต้องเข้ามติที่ประชุมผู้ถือหุ้น ส่วนเงื่อนไขพรีฟอร์มม่ากำหนดไว้ 1.ใส่เงินลงทุน 5,000-10,000 ล้านบาท 2.ต้องผ่านแผนฟื้นฟูฯ