หุ้นไทยวันนี้แกว่ง 1,375-1,395 จุด บอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่ง จับตาประชุม กนง.

หุ้น

บล.กรุงศรีฯ ประเมินหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวกรอบ 1,375-1,395 จุด ดัชนีถูกกดดันบอนด์ยีลด์สหรัฐขึ้น หลังเฟดย้ำไม่รีบลดดอกเบี้ย แต่คาดว่ากลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉาะตัว อย่างกลุ่มงบไตรมาส 4/66 เติบโตจะหนุนดัชนีรีบาวนด์ได้ พร้อมจับตาผลประชุม กนง.

วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรีฯ รายงานตลาดหุ้นวานนี้ SET Index ลดลง 0.15 จุด (-0.01%) ปิดที่ระดับ 1,384 จุด ดัชนีแกว่งตัวในกรอบแคบ เป็นการพักตัวจากที่พุ่งแรงในช่วงปลายสัปดาห์ นักลงทุนรอดู BOT Meeting ในช่วงกลางสัปดาห์นี้

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ ประเมิน SET แกว่งตัวกรอบ 1,375-1,395 จุด โดยดัชนีถูกแรงกดดันจาก US Bond Yield ปรับตัวขึ้นหลังประธาน FED ย้ำไม่รีบลดอัตราดอกเบี้ยลง เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่ง โดยล่าสุดดัชนีภาคบริการเดือน ม.ค.พุ่งขึ้นเกินคาดอยู่ที่ 53.4

อย่างไรก็ตาม คาดว่าแรงหนุนจากหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวโดยเฉพาะ กลุ่มงบ 4Q23F เติบโตจะช่วยหนุนให้ดัชนีสลับรีบาวนด์ขึ้นได้

ประเด็นสําคัญวันนี้ 1.เงินเฟ้อไทยเดือน ม.ค. ติดลบมากสุดในรอบ 35 เดือน แต่มองเป็นปัจจัยชั่วคราว โดยกระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไป (Headline Inflation) ของไทย เดือน ม.ค. ลดลงสู่ระดับ -1.1% จาก -0.83% ในเดือน ธ.ค. และต่ำกว่าที่ Consensus คาดไว้ที่ -0.82% นับเป็นการลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 35 เดือน ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core Inflation) ลดลงสู่ระดับ 0.52% จาก 0.58% ในเดือน ธ.ค.

Advertisment

2.วันนี้ ADVANC ประกาศงบ 4Q23 และตามด้วย INTUCH ในวันพรุ่งนี้ โทนเป็นบวก โดยคาดว่า ADVANC จะมีกําไรปกติประมาณ 7.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% QOQ และ 16% YOY และคาดปันผลครึ่งปีหลังประมาณ 4.6 บาทให้ Dividend Yield 2%, ส่วน INTUCH ประกาศงบพรุ่งนี้คาดมีกําไรปกติ 3.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% QOQ และ 14% YOY คาดปันผลครึ่งปีหลัง 1.73 บาทต่อหุ้นให้ Dividend Yield ประมาณ 2.3%

3.คาดแบงก์ชาติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.5% ตามเดิม จับตาคาดการณ์ GDP ปี’23 และ 24 แม้อัตราเงินเฟ้อของไทยจะติดลบ แต่เป็นผลจาก ปัจจัยชั่วคราว จึงเป็นไปได้สูงที่แบงก์ชาติจะเลือกคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมเพื่อรอประเมินทิศทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีแรกก่อน

อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามตัวเลขคาดการณ์ GDP ปี’23 และ 24 ว่าจะมีการปรับลดในทิศทางเดียวกับกระทรวงการคลังหรือไม่ (มีโอกาสปรับลด หากปรับลดเยอะเป็น Sentiment ลบกดดันตลาด)

กลยุทธ์การลงทุนแนะนำ GULF, GPSC, BGRIM อานิสงส์ต้นทุนพลังงานลดลงจากการปรับ Pool Gas AOT, AAV, BA, CENTEL, ERW, MINT, SPA ไทย-จีนลงนามฟรีวีซ่า มีผล 1 มี.ค. 67

Advertisment

BDMS, BCH, AOT, WHA, CPALL, CPAXT, BJC, CBG, ITC, AAI, AUCT, PLANB, SABINA, MC, SISB, MASTER, SNNP, SPA, MINT แนวโน้ม 4Q23 เติบโต

หุ้นแนะนําวันนี้ PLANB (ปิด 8.70 ซื้อ/เป้า 10.2 บาท) คาดกําไรสุทธิ 4Q23 ทําสถิติสูงสุดใหม่ ประมาณ 280 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% QOQ และ 18% YOY จาก U Rate ที่เพิ่มขึ้น ทั้งปีคาดกําไรสุทธิโต 30% และโตต่อเนื่องอีก 31% ในปีนี้

SABINA (ปิด 28 ซื้อ/เป้า 33 บาท) คาดกําไรสุทธิ 4Q23 ทําสถิติสูงสุดใหม่ที่ 122 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% QOQ และ 15% YOY จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นตาม High Season ของธุรกิจแนวโน้ม 1Q24 โตต่อเนื่องจากผลบวกของมาตรการ Easy e-Receipt, มีนโยบายจ่ายปันผล 100% ให้ Dividend Yield 5-6% ต่อปี