ส่อง 2 หุ้นยักษ์สื่อสาร “AIS” โตพุ่ง “TRUE” พลิกกำไร

พิสุทธิ์ งามวิจิตวงศ์

ช่วงนี้ เซ็กเตอร์สื่อสารโทรคมนาคม จะมีการแจ้งผลประกอบการปี 2566 ซึ่งต้องจับตาคู่แข่งขันที่ปัจจุบันเหลือเพียง 2 ค่ายยักษ์ใหญ่ ว่าผลดำเนินงานจะออกมาเป็นอย่างไร และมองไปในระยะข้างหน้า ธุรกิจจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร

“พิสุทธิ์ งามวิจิตวงศ์” ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย กล่าวว่า จากการประเมินผลประกอบการปี 2566 หุ้นกลุ่มสื่อสาร 2 ค่ายยักษ์ใหญ่ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หรือ AIS กับ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE)

โดยในส่วนของ ADVANC คาดว่าจะมีรายได้รวม 195,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน (YOY) มีกำไรสุทธิ 28,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% (คาดการณ์ก่อนรายงานงบการเงินต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย)

ส่วนปี 2567 คาดว่า ADVANC จะมีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 11% มาอยู่ที่ 217,000 ล้านบาท รายได้ธุรกิจมือถือจะโต 4% รายได้ธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้านจะโต 112% และรายได้ธุรกิจองค์กรจะโต 9.2% ส่วนกำไรคาดจะโต 10% มาอยู่ที่ 
30,800 ล้านบาท เหตุผลที่กำไรโตต่ำกว่ารายได้ เป็นเพราะ 3BB ยังมีผลขาดทุนอยู่

“รายได้ธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้านที่เติบโตสูง เหตุผลเพราะ ADVANC จะบันทึกรายได้ของ 3BB เข้ามาเต็มปีหลังควบรวมกิจการ ขณะที่รายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้ 1 คน (ARPU) ของลูกค้าอินเทอร์เน็ตบ้านถือว่าปรับตัวขึ้นสูงจาก 434 บาท/คน/เดือน เป็น 507 บาท/คน/เดือน จากฐานลูกค้ารวม 4.8 ล้านราย ส่วน ARPU ของลูกค้ามือถือโตไม่มาก ขึ้นจาก 216 บาท/คน/เดือน เป็น 218 บาท/คน/เดือน โดยปัจจุบัน ADVANC มีจำนวนลูกค้ามือถือทั้งหมด 45 ล้านราย”

TRUE พลิกกลับมามีกำไร

ส่วน TRUE (คาดว่าจะประกาศงบการเงิน วันที่ 22 ก.พ.) คาดการณ์รายได้ปี 2566 รวม 203,000 ล้านบาท ลดลง 6% ขาดทุนปกติ 5,200 ล้านบาท ส่วนปี 2567 คาดว่ารายได้รวมจะเพิ่มขึ้น 2% มาอยู่ที่ 207,000 ล้านบาท และจะพลิกจากขาดทุนมามีกำไรอยู่ที่ 2,000 ล้านบาท

“คาดการณ์รายได้มือถือ TRUE จะโต 2% รายได้อินเทอร์เน็ตบ้านจะโต 3% และรายได้ธุรกิจองค์กรจะโต 20% ทั้งนี้ ARPU ของลูกค้ามือถือโตไม่มากเหมือน ADVANC ขยับจาก 222 บาท/คน/เดือน มาเป็น 226 บาท/คน/เดือน โดยปัจจุบัน TRUE มีจำนวนลูกค้ามือถือทั้งหมด 53 ล้านราย ส่วน ARPU ของลูกค้าอินเทอร์เน็ตบ้าน ขยับจาก 515 บาท/คน/เดือน มาเป็น 528 บาท/คน/เดือน บนฐานลูกค้ารวม 3.9 ล้านราย”

ปี’67 ปีที่ดีของหุ้นสื่อสาร

“พิสุทธิ์” กล่าวว่า ภาพรวมในปี 2567 นี้ มองว่าจะเป็นปีที่ดีสำหรับผลประกอบการหุ้นกลุ่มสื่อสาร 2 บริษัท ADVANC กับ TRUE โดยคาดว่าจะมีรายได้รวมกันที่ 424,000 ล้านบาท เติบโต 4-5% และมีกำไรปกติ 30,000 ล้านบาท เติบโต 9-10%

“การเติบโตของรายได้ ไม่ได้มองถึงผู้ประกอบการจะขึ้นราคาไปได้มาก เพราะสังคมจับตามองอยู่ แต่แค่ไม่ลดราคาก็ช่วยให้รายได้โตได้แล้ว เพราะการใช้งานอินเทอร์เน็ตของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นทุกปี เพียงแต่ที่ผ่านมาที่รายได้ไม่ขยับขึ้น เพราะแข่งลดราคาเพื่อแย่งลูกค้า ซึ่งตอนนี้จะไม่เห็นการลดราคาอย่างหนักหน่วงเหมือนในอดีตแล้ว

ดังนั้นเมื่อแย่งลูกค้ากันน้อยลง ค่าใช้จ่ายด้านต้นทุนในการแจกแถมเครื่อง การโฆษณาและการตลาด ก็จะลดลงได้ แต่จะไม่ได้หายไป เพราะจะถูกแปรไปเป็นต้นทุนในการรักษาลูกค้า เช่น สิทธิประโยชน์ AIS Serenade, True Black Card หรือออฟเฟอร์ต่าง ๆ ที่เปลี่ยนรูปแบบไป”

นอกจากนั้น เรื่องของค่าไฟฟ้า ที่ปรับตัวลดลงจากปีที่แล้วโดยรัฐเข้ามาควบคุม ซึ่งคิดเป็นประมาณเกือบ 10% ของค่าใช้จ่ายรวม จะทำให้ต้นทุนของผู้ประกอบการลดลง ประกอบกับเห็นการลงทุนที่น้อยลง เพราะจากที่ประมูล 5G ตั้งแต่ต้นปี 2563 ซึ่งลงทุนมาแล้ว 4 ปี (2563-2566) โดยปีนี้จะเป็นปีที่ผู้ประกอบการลงทุนช้าลง ดังนั้นจะเห็นกำไรโตเร็วกว่ารายได้

“แนะนำซื้อ ADVANC หากชอบความมั่นคงแน่นอน ให้ราคาเป้าหมาย 248.93 บาท/หุ้น และแนะนำซื้อ TRUE หากชอบหุ้นฟื้นตัวจากขาดทุนเป็นกำไร ให้ราคาเป้าหมาย 9.28 บาท/หุ้น”

AIS TRUE

ควบรวมทำให้แข่งขันลดลง

“ฐิติเทพ นพเกตุ” หัวหน้าฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เกียรตินาคินภัทร กล่าวว่า หุ้นสื่อสารเป็นกลุ่มที่มีความน่าสนใจ โดยเฉพาะ ADVANC ที่จะได้ประโยชน์เต็ม ๆ จากการควบรวมกิจการในอุตสาหกรรม โดยมองว่าผู้เล่นในอุตสาหกรรมที่ลดลง ทำให้การแข่งขันลดลง เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกรายรวมทั้ง ADVANC ขึ้นราคาได้

จากช่วงปี 2563 จนถึงครึ่งแรกของปี 2565 ธุรกิจโทรคมนาคมเป็นยุคมืดของอุตสาหกรรม เพราะเป็นช่วงที่ผู้ประกอบการทุกรายรายได้และกำไรลดลง เนื่องจากเผชิญวิกฤตโควิด-19 เศรษฐกิจไม่ดี คนไม่มีกำลังซื้อ ผู้เล่นในตลาดเร่งออกแพ็กเกจราคาถูกแย่งลูกค้า และค่าใช้จ่ายมีสิทธิปรับลดได้ โดยงบฯการตลาดของ ADVANC ปี 2560 อยู่ที่ 10,000 ล้านบาท แต่พอปี 2565 เจอโควิด ปรับลดงบฯการตลาดลง 30% เหลือ 7,000 ล้านบาท และในช่วง 9 เดือนแรกปี 2566 ปรับลงอีก 27% เหตุผลที่ปรับลงได้ เพราะคู่แข่งไม่ทำโฆษณาเหมือนกัน

เชื่อแข่งประมูลคลื่นไม่ดุเดือด

นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายประมูลคลื่นเชื่อว่าปรับลดลงไปได้ โดยคลื่นความถี่ 2100 MHz ของ ADVANC จะหมดอายุเดือน ส.ค. 2568 ฉะนั้นภายในปี 2567 เชื่อว่าสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการ
โทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จะนำคลื่นความถี่ 2100 MHz กลับมาประมูลใหม่

ซึ่งทุกครั้งที่มีการประมูลคลื่น ปกติจะแข่งกันดุเดือดเลือดสาด และราคาสุดท้ายสูงกว่าที่คาด แต่รอบนี้ไม่เหมือนกัน คิดว่าจะกลับตาลปัตร การประมูลคลื่นจะทำให้ค่าคลื่นความถี่ 2100 MHz ถูกลง เพราะ 1.คลื่นความถี่ 2100 MHz เป็นคลื่นเช่าใช้จาก บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) ปีละ 4,000 ล้านบาท 2.การแข่งขันจะไม่รุนแรง เพราะ DTAC ควบรวมไปแล้ว 3BB ที่ดึงราคาขึ้นมาในการประมูลรอบก่อน ๆ ก็ควบรวมไปแล้ว จะเหลือผู้เข้าประมูลแค่ 2 รายคือ ADVANC และ TRUE

“สมมุติรอบนี้ ADVANC ซื้อคลื่นความถี่ 2100 MHz กลับไปได้ คงจะอยู่ในราคา 15,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่เหมาะสม เมื่อเทียบกับต่างประเทศ ในทางบัญชีจะบันทึกค่าใช้จ่ายปีละ 1,500 ล้านบาท ซึ่งจะลดลง 2,500 ล้านบาท จากเดิมเช่าใช้สัญญาณจาก NT 4,000 ล้านบาท ซึ่งประเด็นนี้ตลาดยังไม่ได้ใส่เข้าไปในงบการเงิน”

ทั้งนี้แม้ว่า TRUE จะได้ประโยชน์จากการควบรวมเหมือนกัน แต่ไม่แนะนำลงทุนตอนนี้ เพราะว่าจะมีค่าใช้จ่ายควบรวม Integration Cost คิดเป็นมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท ซึ่งจะต้องจ่ายก่อนถึงจะได้ประโยชน์จากการควบรวม

“ดังนั้น ปีนี้ TRUE จะเห็นค่าใช้จ่ายตรงนี้ก่อน ส่วนสิทธิประโยชน์ควบรวมอาจจะมาช่วงครึ่งปีหลังหรือปี 2568 ช่วงนี้ จึงแนะนำให้ถือ ADVANC ไปก่อน ให้ราคาเป้าหมาย 275 บาท/หุ้น”