สรรพสามิตเผยผลจับบุหรี่เถื่อนกว่า 7.7 หมื่นซอง พร้อมลุยปราบเชิงรุกทั่วไทย

สรรพสามิตเผยผลจับบุหรี่เถื่อนกว่า 7.7 หมื่นซอง

กรมสรรพสามิต เผยผลการจับกุมบุหรี่เถื่อนรวมกัน 77,410 ซอง พร้อมเดินหน้าปราบปรามเชิงรุกขบวนการค้าบุหรี่เถื่อนทั่วประเทศไทยอย่างเด็ดขาด

วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 ดร.นิตยา โสรีกุล รองอธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต กล่าวว่า ภายใต้การอำนวยการของ ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต ที่ให้ความสำคัญกับการปราบปรามและจับกุมขบวนการจับกุมผู้กระทำผิดตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 โดยเฉพาะการปราบปรามบุหรี่เถื่อนที่ลักลอบมาตามแนวชายแดนและส่งขายผ่านช่องทางออนไลน์

ดร.นิตยา โสรีกุล
ดร.นิตยา โสรีกุล

โดยผลจากการปฏิบัติการเชิงรุกของเจ้าหน้าที่สรรพสามิต ฝ่ายปราบปราม สำนักตรวจสอบป้องกันและปราบปราม เจ้าหน้าที่สรรพสามิต สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 8 และสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ชุมพร ทำให้เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ สามารถจับบุหรี่เถื่อนที่ลักลอบขนจากแนวชายแดนภาคตะวันออกส่งผ่านศูนย์กระจายสินค้าไปยังพื้นที่ต่าง ๆ จำนวน 67,960 ซอง มีมูลค่าประมาณการค่าปรับ 64,018,320 บาท

ขณะเดียวกันจากการขยายผลการจับกุมรถตู้ขนบุหรี่เถื่อนที่ประสบอุบัติเหตุชนรถกระบะ ที่ อ.กงหรา จ.พัทลุง ในวันเดียวกันนี้เอง (13 กุมภาพันธ์) เจ้าหน้าที่สรรพสามิต สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 9 ร่วมกับสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่สงขลา สาขาหาดใหญ่ และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร จ.สงขลา ได้เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 12 ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา ซึ่งถูกใช้เป็นโกดังเก็บและจำหน่ายบุหรี่เถื่อนผ่านทางออนไลน์ส่งขายทั่วประเทศรายใหญ่

ผลการจับกุมพบผู้ต้องหาจำนวน 1 ราย ของกลางบุหรี่เถื่อนอยู่ภายในรถยนต์นั่ง และภายในบ้าน ประมาณรวม 9,450 ซอง ประมาณการมูลค่า 850,000 บาท โดยคิดเป็นประมาณการค่าภาษี 600,000 บาท ประมาณการค่าปรับ 8,900,000 บาท

ดร.นิตยากล่าวเพิ่มเติมว่า ปฏิบัติการปราบปรามและจับกุมขบวนการค้าบุหรี่เถื่อนในครั้งนี้ เป็นไปตามมาตรการเชิงรุกของ ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต ที่ให้ความสำคัญในการปราบปรามและจับกุมขบวนการค้าบุหรี่เถื่อน และผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต 2560 อย่างเคร่งครัด และได้มีการทำงานในรูปแบบบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันและปราบปรามสินค้าผิดกฎหมายสรรพสามิต ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ที่เป็นกลุ่มกระบวนการรายใหญ่ และการซื้อขายสินค้าผ่านทางระบบออนไลน์ซึ่งเป็นที่นิยมและแพร่หลายในปัจจุบัน

ซึ่งสินค้าเหล่านี้หากเล็ดลอดไปได้จะสร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก ทั้งในเรื่องของความชอบธรรมต่อผู้ประกอบการที่เสียภาษีโดยสุจริต รวมถึงการดูแลความปลอดภัยด้านสุขภาพของพี่น้องประชาชนชาวไทยจากการได้รับสินค้าปลอมแปลงที่อาจเกิดปัญหาหรือส่งผลต่อสุขภาพของพี่น้องประชาชน

ทั้งนี้ หากประชาชนท่านใดทราบเบาะแสหรือพบเห็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับสินค้าที่ต้องเสียภาษีสรรพสามิตสามารถแจ้งโดยตรงได้ที่กรมสรรพสามิต หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ทุกแห่งทั่วประเทศหรือสายด่วน 1713 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรืออีเมล์ excise_ [email protected]