บลจ.ไทยพาณิชย์ วางเป้า AUM ปีนี้แตะ 2 ล้านล้าน ชี้ตราสารหนี้ยังโดดเด่น

SCB Asset Management Co., Ltd.

บลจ.ไทยพาณิชย์ คาด AUM ปีนี้แตะ 1.9-2 ล้านล้านบาท จาก 1.8 ล้านล้านบาทในปีที่ผ่านมา พร้อมวาง 4 แนวทางบริหารลงทุน มองตลาดตราสารหนี้ยังมีผลตอบแทนดี จากจังหวะการปรับตัวของดอกเบี้ย

วันที่ 12 มีนาคม 2567 นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ SCBAM เปิดเผยว่า SCBAM คาดมูลค่าทรัพย์สินสุทธิภายใต้การจัดการของบริษัทจัดการ (AUM) ในปีนี้ (2567) จะเพิ่มขึ้นเป็น 1.9-2 ล้านล้านบาท จาก 1.8 ล้านล้านบาทในปี (2566) ที่ผ่านมา และมีโอกาสมากกว่านั้น หากทิศทางตลาดตราสารหนี้ผลตอบแทนดี ส่วนธุรกิจกองทุนรวม (Mutual Fund) และกลุ่มธุรกิจกองทุนส่วนบุคคล (Private Fund) คาดว่าจะสามารถโตได้ 50,000-100,000 ล้าน

โดยในปี 2566 ที่ผ่านมา SCBAM มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 21% เพิ่มขึ้น 5% YOY โดยแบ่งสัดส่วนมูลค่าทรัพย์สินตามกลุ่มธุรกิจออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1) กลุ่มธุรกิจกองทุนรวมมีมูลค่าทรัพย์สินรวมกว่า 960,000 ล้านบาท คิดเป็น 19% 2) กลุ่มธุรกิจกองทุนส่วนบุคคล มีมูลค่าทรัพย์สินรวมกว่า 650,000 ล้านบาท คิดเป็น 30% และ 3) กลุ่มธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มีมูลค่าทรัพย์สินรวมกว่า 200,000 ล้านบาท คิดเป็น 14%

ซึ่งมองว่าปีนี้จะออกกองทุนตราสารหนี้ได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว เนื่องจากสภาวะตลาดเอื้อต่อการลงทุน คาดว่าจะให้ผลตอบแทนดีจากอัตราดอกเบี้ยสูง น่าจะตอบรับความต้องการของนักลงทุนโดยไม่ต้องเสี่ยงมากเกินไป โดยเชื่อว่าธนาคารกลางทั่วโลกจะไม่รีบปรับลดดอกเบี้ยเร็ว แต่จะค่อย ๆ ทยอยปรับลดลง เพราะเงินเฟ้อยังไม่ลดลงมากนัก อย่างไรก็ตาม แม้ว่าหากในปีนี้ 67 จะไม่มีการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลาง ตราสารหนี้ก็ยังนับว่าเป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุน

ในส่วนตลาดหุ้นไทย มองว่าช่วงไตรมาส 1-2 ปี’67 จะยังเห็นตัวเลขงบการเงินของบริษัทจดทะเบียนไม่ค่อยดี ประกอบกับความเชื่อมั่นตลาดหุ้นไทยลดลง อย่างไรก็ตาม คาดว่าการใช้จ่ายของภาครัฐที่เคยเป็นตัวดึงตลาดจะกลับมา และคาดว่าในปลายปี’67 หุ้นไทยน่าจะฟื้นตัวได้ชัดเจน ขณะที่มองตลาดหุ้นอเมริกาน่าลงทุน เนื่องจากมีความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยีที่ดี

ทั้งนี้ SCBAM ได้วางการบริหารจัดการใน 4 แนวทางหลัก ประกอบด้วย แนวทางที่ 1 การบริหารจัดการลงทุน ปีนี้ SCBAM มีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง จากภาคบริการที่ยังคงเติบโตและภาคการผลิตที่เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว

รวมถึงอัตราเงินเฟ้อโลกมีสัญญาณชะลอตัวปรับลดลงใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ธนาคารกลางของแต่ละประเทศกำหนด กลยุทธ์การลงทุนจึงเน้นการจับจังหวะทิศทางตลาดทุนเป็นหลัก เพื่อหาสินทรัพย์ลงทุนที่ได้ประโยชน์และสามารถมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ในแต่ละช่วงจังหวะเวลา พร้อมได้นำเสนอกองทุนใหม่ SCBDBOND และ SCBMONEY ที่เป็นการลงทุนในตราสารหนี้

เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนในช่วงจังหวะการปรับตัวของอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ จากที่ SCBAM เป็นผู้บุกเบิกนำ Machine Learning มาช่วยในการวิเคราะห์ คัดเลือกหลักทรัพย์ และสร้างพอร์ตลงทุนมาอย่างต่อเนื่อง

ในปีนี้ SCBAM พร้อมต่อยอดความสำเร็จเปิดตัวกองทุนใหม่ SCBLOWBETA ในกลุ่มกองทุน Machine Learning จากผลการดำเนินงานย้อนหลังที่กองทุนกลุ่มนี้สามารถทำได้ดีเมื่อเปรียบเทียบกับกองทุนอื่นในกลยุทธ์เดียวกัน อีกทั้งกลยุทธ์การลงทุนโดยใช้ Machine Learning มีจุดเด่นในด้านการวิเคราะห์ ตัดสินใจอย่างเป็นระบบนี้เอง ได้รับความสนใจในกลุ่มนักลงทุนสถาบันจัดตั้งเป็นกองทุนส่วนบุคคลด้วย

แนวทางที่ 2 การพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุนและการขยายฐานผู้ลงทุน ในปีนี้  SCBAM พร้อมต่อยอดนำเสนอกลยุทธ์การลงทุนในกลุ่ม Private Assets ทางเลือกช่วยกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตการลงทุน ที่ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนกลุ่ม High Net Worth เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ในส่วนนักลงทุนสถาบัน ธุรกิจกองทุนส่วนบุคคล SCBAM ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารกว่า 650,000 ล้านบาท ครองส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 30%

ด้วยประสบการณ์การดูแลลูกค้าในการบริหารเงินลงทุนอย่างยาวนาน จึงทำให้ SCBAM สามารถนำเสนอแผนการลงทุนที่เหมาะสมกับธุรกิจหลากหลายประเภทได้เป็นอย่างดี สำหรับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของ SCBAM มีการเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง โดยปีที่ผ่านมา สินทรัพย์ภายใต้การบริหารเติบโตขึ้น 8% มากกว่าอุตสาหกรรมถึง 3 เท่า ด้วยความใส่ใจด้านการบริการ เน้นการให้ความรู้กับนายจ้างและสมาชิกกองทุน พร้อมรูปแบบการลงทุนอย่างยั่งยืน มีทางเลือกการลงทุนหลากหลายประเภทสินทรัพย์ ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงแนะนำแผนการลงทุนที่เหมาะสมตามอายุของสมาชิก (Life Path)

สำหรับการขยายฐานผู้ลงทุนผ่านแอปพลิเคชั่น SCBAM Fund Click ในช่วงที่ผ่านมาเติบโตได้เป็นอย่างดี โดยในปี 2566 มีจำนวนผู้ลงทุนที่เพิ่มขึ้นกว่า 40% YOY ด้วยความตั้งใจของ SCBAM ที่อยากมีส่วนสนับสนุนให้นักลงทุนรุ่นใหม่สามารถเริ่มต้นลงทุนได้ง่ายเพื่อพิชิตเป้าหมาย 1 ล้านบาทแรก กับกลุ่มกองทุน e-Class ฟรีค่าธรรมเนียมการซื้อและการบริหารจัดการ ครอบคลุมทุกประเภทสินทรัพย์ทั่วโลก มีให้เลือกทั้งรูปแบบกองทุนปกติชนิดหน่วยลงทุน e-Class และกองทุนลดหย่อนภาษี SSF e-Class เฉพาะบนแอปพลิเคชั่น SCBAM Fund Click เท่านั้น

แนวทางที่ 3 งานบริการข้อมูลและวางแผนลงทุน ปัจจุบัน SCBAM มีระบบการให้บริการข้อมูลผ่านระบบออนไลน์ SCBAM e-Service บนเว็บไซต์ของ SCBAM เป็นการให้บริการข้อมูลแบบ One Stop Platform ลูกค้าสามารถวางแผนการลงทุน จัดพอร์ตการลงทุน ติดตามสถานะการลงทุนจากทุกช่องทางได้ด้วยตนเอง พร้อมตัวช่วยวางแผนและบริหารจัดการการลงทุนกับกองทุนลดหย่อนภาษี ทั้งการตรวจสอบจำนวนเงินลดหย่อนภาษีรายปี ต้นทุนการลงทุน ผลตอบแทนที่ได้รับ จำนวนครบกำหนดขายคืนตามข้อกำหนดของกรมสรรพากร

นอกจากนี้ SCBAM ยังมีแผนพัฒนา Omnichannels เพิ่มช่องทางการติดต่อและสื่อสาร เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ายุคใหม่ ที่ชื่นชอบการสื่อสารผ่านช่องทาง Social Media และข้อมูลที่รวดเร็วผ่าน SCBAM Line Official ที่สามารถดูข้อมูลการลงทุนด้วยตนเอง หรือขอเอกสารภาษีผ่านระบบได้แบบอัตโนมัติ ซึ่งทุกงานบริการจะมาพร้อมกับความมั่นคงปลอดภัยทางด้านเทคโนโลยี ควบคู่ไปกับความสะดวก เพื่อตอบสนองได้ในทุก Lifestyle ของลูกค้า

แนวทางที่ 4 การส่งเสริมการพัฒนาบุคลากร SCBAM ให้ความสำคัญกับพนักงานทุกคน เพราะเป็นหนึ่งส่วนสำคัญต่อการขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ความสำเร็จ มุ่งพัฒนาองค์กรผ่านการสร้างผู้นำที่เข้มแข็ง เพิ่มความคล่องตัวในการทำงานและบริหารงานให้มีประสิทธิภาพมากกว่าการรวมอำนาจที่ศูนย์กลาง ควบคู่ไปกับการสนับสนุนความพร้อมทั้งด้านระบบงานและเทคโนโลยีทันสมัยให้สอดรับกับการทำงานแบบ Work from Anywhere

พร้อมนำแนวทางการบริหารจัดการรูปแบบใหม่เพื่อการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างพนักงานอย่างต่อเนื่องให้พนักงานสามารถสร้างสรรค์ผลงานที่ดีให้กับลูกค้าและองค์กร อันจะส่งผลให้ SCBAM สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง และสร้างความสำเร็จได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว