คลัง อัพเดตแก้หนี้นอกระบบ แบงก์รัฐปล่อยสินเชื่อช่วยแล้วกว่า 12 ล้านบาท

แก้หนี้ หนี้นอกระบบ

กระทรวงการคลังเผยความคืบหน้า ช่วยเหลือผู้ลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ธนาคารออมสิน-ธ.ก.ส. รับไกล่เกลี่ยแล้ว 10,592 ราย อนุมัติสินเชื่อไปแล้วจำนวน 525 ราย รวมเป็นจำนวนเงิน 12.02 ล้านบาท

วันที่ 15 มีนาคม 2567 นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้แถลงนโยบายการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบที่เป็นวาระแห่งชาติ เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 ซึ่งให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ

เนื่องจากเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน จากการจ่ายดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด แบกรับภาระหนี้สินที่เกินกว่าเงินต้นเป็นจำนวนมาก รวมถึงพฤติการณ์ใช้ความรุนแรงในการทวงถามหนี้ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของลูกหนี้ โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเชิงรุกเพื่อต่อสู้กับปัญหาดังกล่าวใน 3 มิติอย่างครบวงจรและต่อเนื่อง

ประกอบด้วย (1) ด้านการไกล่เกลี่ยประนอมหนี้นอกระบบ (2) ด้านการบังคับใช้กฎหมาย และ (3) ด้านการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ได้แก่ ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน เพื่อดูแลลูกหนี้นอกระบบให้เข้ามาเป็นลูกหนี้ในระบบและหลุดพ้นจากวงจรการเป็นหนี้สินล้นพ้นตัว

เพื่อดำเนินการตามนโยบายการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบที่เป็นวาระแห่งชาติ กระทรวงการคลังได้ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบที่ผ่านการไกล่เกลี่ยประนอมหนี้แล้ว และมีความประสงค์ที่จะขอสินเชื่อ (ผู้ลงทะเบียนที่ผ่านการไกล่เกลี่ยฯ) ผ่านมาตรการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือและรองรับลูกหนี้นอกระบบที่ผ่านกระบวนการไกล่เกลี่ยหนี้ ในโครงการแก้หนี้นอกระบบของรัฐบาล

โดยธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส.สนับสนุนสินเชื่อวงเงินรวม 15,000 ล้านบาท วงเงินสินเชื่อรายละไม่เกิน 20,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อเดือน (Flat rate) ปลอดชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 6 งวดแรก และระยะเวลาคืนเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 3 ปี ซึ่งหากผู้ลงทะเบียนที่ผ่านการไกล่เกลี่ยฯ เป็นผู้ประกอบอาชีพทั่วไปสามารถติดต่อได้ที่ธนาคารออมสิน และหากเป็นเกษตรกรสามารถติดต่อได้ที่ ธ.ก.ส.

นอกจากนี้ ธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส.ยังมีโครงการสินเชื่ออื่นสำหรับผู้ลงทะเบียนที่ผ่านการไกล่เกลี่ยฯ รวมถึงประชาชนทั่วไปที่ต้องการสินเชื่อเพื่อนำไปชำระหนี้นอกระบบ ผ่านมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้นอกระบบ เช่น โครงการสินเชื่อธนาคารประชาชนโดยธนาคารออมสิน (วงเงินสินเชื่อรายละไม่เกิน 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 0.75 ต่อเดือน)

สินเชื่อเพื่อชำระหนี้นอกระบบโดย ธ.ก.ส. (วงเงินสินเชื่ออนุมัติรายละไม่เกิน 200,000 บาท หรือในกรณีสงวนรักษาที่ดิน วงเงินสินเชื่อรายละไม่เกิน 500,000 บาท อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น MRR ระยะเวลาชำระคืนเงินกู้ไม่เกิน 12 ปี) และบริษัท มีที่ มีเงิน จำกัด ซึ่งเกิดจากการร่วมทุนของธนาคารออมสิน เพื่อให้บริการขายฝาก หรือให้สินเชื่อจดจำนองที่ดินอย่างเป็นธรรม อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นร้อยละ 7.5 ต่อปี และปลอดชำระเงินต้น 12 เดือน

ทั้งนี้ ผลการดำเนินการให้ความช่วยเหลือด้านสินเชื่อจากธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบสำหรับผู้ลงทะเบียนที่ผ่านการไกล่เกลี่ยฯ ณ วันที่ 14 มีนาคม 2567 มีจำนวน 10,592 ราย แบ่งเป็นผู้ที่เข้าไปติดต่อขอรับความช่วยเหลือที่ธนาคารทั้งสองแห่งแล้วจำนวน 1,675 ราย (15.81%) และผู้ที่ยังไม่ได้เข้าไปติดต่อขอรับความช่วยเหลือที่ธนาคารทั้งสองแห่งจำนวน 8,917 ราย (84.19%)

โดยจากจำนวนผู้ที่เข้ามาติดต่อขอรับความช่วยเหลือ ธนาคารทั้งสองแห่งได้ดำเนินการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อไปแล้วจำนวน 525 ราย (31.34% ของผู้ที่เข้าไปติดต่อขอรับความช่วยเหลือที่ธนาคารทั้งสองแห่ง) รวมเป็นจำนวนเงิน 12.02 ล้านบาท

สำหรับผู้ลงทะเบียนที่ผ่านการไกล่เกลี่ยฯ ที่ยังไม่ได้เข้าไปติดต่อขอรับความช่วยเหลือ ธนาคารทั้งสองแห่งได้ดำเนินการเชิงรุกโดยเร่งประชาสัมพันธ์และติดต่อผู้ลงทะเบียนผ่านทางโทรศัพท์ และส่ง SMS ตามข้อมูลที่อยู่ของผู้ลงทะเบียนที่ผ่านการไกล่เกลี่ยฯ เพื่อนัดหมายให้เข้ามาติดต่อที่ธนาคารต่อไป สำหรับผู้ที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือด้านสินเชื่อเนื่องจากคุณสมบัติไม่ผ่านเกณฑ์ ธนาคารทั้งสองแห่งก็ได้ให้ความช่วยเหลือทุกราย

โดยการให้คำแนะนำปรึกษา ประกอบด้วย การปรับโครงสร้างหนี้ (ลดยอดผ่อนชำระต่องวดลง และขยายระยะเวลาชำระหนี้ให้นานขึ้น) การให้ความรู้ทางการเงิน รวมทั้งการส่งเข้าร่วมโครงการฟื้นฟูศักยภาพในการหาแหล่งรายได้หรือพัฒนาอาชีพของธนาคารทั้งสองแห่งด้วยแล้ว ทั้งนี้ เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ กระทรวงการคลังขอเชิญชวนให้ผู้ลงทะเบียนที่ผ่านการไกล่เกลี่ยฯ ติดต่อไปยังธนาคารทั้งสองแห่ง โดยธนาคารทั้งสองแห่งพร้อมให้ความช่วยเหลือด้านการเงิน และให้ความช่วยเหลือด้านอื่น ๆ กับประชาชนอย่างเต็มที่

นอกจากนี้ กระทรวงการคลังได้ส่งเสริมให้มีการประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) เพื่อเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบให้แก่ประชาชนรายย่อย โดย ณ เดือนมกราคม 2567 มีผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ และเปิดดำเนินการแล้วสะสมสุทธิ 1,140 ราย ใน 75 จังหวัด และ ณ เดือนธันวาคม 2566 มีการอนุมัติสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ให้กับประชาชนรายย่อยสะสมทั้งสิ้น 4,050,833 บัญชี รวมเป็นวงเงิน 38,857.69 ล้านบาท โดยประชาชนที่สนใจขอกู้สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์สามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ทั้ง 75 จังหวัด ได้ที่ www.1359.go.th