กรุงศรี คอนซูมเมอร์ เผยมีลูกหนี้หนี้เรื้อรัง 7% ชี้ 1 เม.ย. พร้อมสื่อสารทุกช่องทาง

กรุงศรี คอนซูมเมอร์

กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ประเมินลูกหนี้เข้าข่ายหนี้เรื้อรังกลุ่ม severe PD มีประมาณ 7% ของพอร์ตรวม คาดลูกค้าเข้าโครงการราว 10% เหตุลูกค้าไม่ต้องการปิดวงเงิน ลั่น 1 เม.ย. 2567 พร้อมสื่อสารทุกช่องทางถึงลูกค้า

วันที่ 28 มีนาคม 2567 นายอธิป ศิลป์พจีการ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารธุรกิจกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์บริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด และประธานชมรมสินเชื่อส่วนบุคคล สมาคมธนาคารไทย (TBA) เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้ามาตรการแก้หนี้เรื้อรัง (Persistent Debt : PD) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่จะมีผลบังคับในวันที่ 1 เมษายน 2567 นั้น

อธิป ศิลป์พจีการ
อธิป ศิลป์พจีการ

ในส่วนของสมาคมและสมาชิกของสมาคมมีการพูดคุยกันต่อเนื่องระหว่างสมาคมและ ธปท.ก่อนจะมีการประกาศออกมา ซึ่งยอมรับว่ามาตรการดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจบ้างส่วน โดยเฉพาะผู้ประกอบธุรกิจที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ (น็อนแบงก์) เนื่องจากผู้ประกอบที่มีอยู่กว่า 100 รายจะเป็นผู้ประกอบการท้องถิ่น ซึ่งทำให้การดึงข้อมูลย้อนหลัง 5 ปี อาจจะทำได้ค่อนข้างยาก ทำให้เกณฑ์ในส่วนของธนาคารและน็อนแบงก์จึงแตกต่างกัน

สำหรับในส่วนของ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ จากการสำรวจข้อมูลพบว่ามีลูกค้าบัตรกดเงินสดและสินเชื่อส่วนบุคคลแบบหมุนเวียนที่เข้าข่ายกลุ่มเป็นหนี้เรื้อรัง ทั้งในกลุ่มเริ่มมีปัญหาหนี้เรื้อรัง (general PD) ซึ่งชำระดอกเบี้ยรวมมากกว่าเงินต้นย้อนหลังตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป และกลุ่มที่เป็นหนี้เรื้อรัง (severe PD) ลูกหนี้ที่มีปัญหาหนี้เรื้อรังชำระดอกเบี้ยรวมมากกว่าเงินต้นย้อนหลัง 5 ปี รวมอยู่ประมาณ 10% ของพอร์ตรวม

อย่างไรก็ดี หากเป็นกลุ่มลูกค้าที่เข้าข่ายเป็นหนี้เรื้อรัง (severe PD) มีอยู่ประมาณ 7% ของพอร์ตรวม ซึ่งบริษัทจะเปิดให้เข้ารวมโครงการแก้หนี้เรื้อรัง โดยคิดอัตราดอกเบี้ย 15% ต่อปี ผ่อนชำระเป็นเวลา 5 ปี ซึ่งจากการประเมินพบว่าจะมีลูกค้าเข้าโครงการประมาณ 10% ของลูกค้าที่เข้าข่ายหนี้เรื้อรัง เนื่องจากลูกค้าบางรายยังต้องการสภาพคล่อง เพราะหากเข้าโครงการจะต้องปิดวงเงิน ขณะเดียวกัน หากดูข้อมูลในช่วงที่มีมาตรการช่วยเหลือในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมาจะเห็นว่ามีลูกค้าที่เข้าร่วมมาตรการในสัดส่วนประมาณนี้

“เรามีพอร์ตลูกค้าหลากหลาย ตั้งแต่ลูกค้า mass จนถึง Affluent ซึ่งยังไม่สามารถประเมินว่าจะมีผลต่อรายได้ดอกเบี้ยเท่าไร เพราะส่วนหนึ่งเราก็คิดลูกค้าตามความเสี่ยง หรือ Risk Based Pricing อย่างไรก็ดี ตอนนี้เรามีความพร้อมวันที่ 1 เม.ย. 2567 เราจะเริ่มสื่อสารตามช่องทางต่าง ๆ ให้ลูกค้าทันที”