3 โบรก ประสานเสียงเชียร์ “ซื้อ” SAV กำไร Q1 ทุบสถิติ รับปริมาณเที่ยวบิน

บมจ. สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ หรือ SAV

3 โบรกเกอร์ “ยูโอบี-ฟินันเซียไซรัส-กสิกรไทย” ประสานเสียงเชียร์ “ซื้อ” หุ้น SAV เคาะราคาเป้า 24-25 บาท/หุ้น คาดกำไรไตรมาส 1/67 ทุบสถิติออลไทม์ไฮ รับปริมาณเที่ยวบินเพิ่ม

วันที่ 8 พฤษภาคม 2567 บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) แนะนำ “ซื้อ” หุ้นบริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SAV ธุรกิจ Holding company ที่มีบริษัทย่อย 1 บริษัท คือบริษัท แคมโบเดีย แอร์ทราฟฟิค เซอร์วิส จํากัด (CATS) ประกอบธุรกิจให้บริการบริหารจัดการควบคุมการจราจรทางอากาศทั่วน่านฟ้าประเทศกัมพูชาเพียงผู้เดียว

โดยเคาะราคาเป้าหมาย SAV ที่ 25 บาท ชี้ฐานะทางการเงิน กระแสเงินสดแข็งแกร่ง ขณะที่แนวโน้มกำไรสุทธิทั้งปี 2567 คาดว่าจะเติบโตโดดเด่นถึง 104% ลุ้นคว้างานบริหารจราจรทางอากาศใน สปป.ลาว ที่มีศักยภาพสูงและมีเที่ยวบินทั้งหมดมากกว่ากัมพูชา 2-3 เท่า

โดยคาดว่ากำไรจะเติบโตก้าวกระโดดต่อเนื่องใน 3 ปี จากการเติบโตของการจราจรทางอากาศในกัมพูชา ทำให้กำไรของ SAV เพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกไตรมาสนับตั้งแต่ไตรมาส 1/2566 พร้อมทั้งคาดว่ากำไรของ SAV จะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ไตรมาส 1/2567 ตามการเติบโตของจำนวนเที่ยวบิน

แรงหนุนของการเปิดบริการเที่ยวบินของแอร์เอเชียกัมพูชา ในเดือน พ.ค. 2567 รวมทั้งการเปิดดำเนินการของสนามบินอีก 3 แห่ง ที่จะเกิดขึ้นในช่วงปี 2567-2569 จากฐานกำไรที่ตํ่าในปี 2566 ประเมินกำไร SAV จะเติบโตสูงถึง 104% เป็น 556 ล้านบาท ในปี 2567 และเพิ่มอีก 23% เป็น 684 ล้านบาท ในปี 2568

Advertisment

บล.ฟินันเซีย ไซรัส แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 25 บาท/หุ้น คาดกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 3 เท่า ทำสถิติสูงสุดใหม่หลังวิกฤตที่ 93 ล้านบาท ในไตรมาส 1/2567 (เทียบกับ 31 ล้านบาท ในไตรมาส 1/2566) คาดว่าปริมาณเที่ยวบินรวมในไตรมาส 1/2567 จะเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน (YOY) ปริมาณการลงจอดและบินขึ้นระหว่างประเทศควรเติบโต 15-20% YOY (50-55% ของก่อนโควิด)

เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศกัมพูชาเพิ่มขึ้น ปริมาณเที่ยวบินข้ามควรเพิ่มขึ้น 5-10% YOY (90-95% ของก่อนโควิด) นำโดยจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นในเวียดนาม รายได้น่าจะเพิ่มขึ้น 15-20% YOY เนื่องจากปริมาณเที่ยวบินที่สูงขึ้นและการแปลงค่าเงินที่เป็นบวก (หลังจากเงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ)

โดยรวมแล้วคาดว่ากำไรหลักไม่รวมภาษีหัก ณ ที่จ่าย (WHT) จะเพิ่มขึ้น 36% YOY เป็น 108 ล้านบาท SAV น่าจะบันทึก WHT ที่ 14-16 ล้านบาท ในไตรมาส 1/2567 (เทียบกับ 47 ล้านบาท ในไตรมาส 1/2566) ส่งผลให้กำไรเติบโต 204% เป็น 93 ล้านบาท

Advertisment

ขณะที่คาดการณ์กำไรหลักปี 2567 จะเพิ่มขึ้น 56% เป็น 436 ล้านบาท โดยได้แรงหนุนจากปริมาณเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น 20% เป็น 1.11 แสนเที่ยวบิน (83% ของเที่ยวบินก่อนโควิดอยู่ที่ 1.34 แสนเที่ยวบิน)

นอกจากนี้ดอกเบี้ยจ่ายน่าจะลดลงอย่างมากจาก 69 ล้านบาท ในปี 2566 เหลือเพียง 2-4 ล้านบาท หลังจากที่ SAV จ่ายคืนเงินกู้ระยะยาวด้วยเงินที่ได้รับจาก IPO คาดปริมาณเที่ยวบินแตะระดับก่อนโควิดปี 2568 คาดกำไรหลักพุ่งเป็น 568 ล้านบาท แซงกำไรก่อนโควิด 499 ล้านบาท

บล.กสิกรไทย คงคำแนะนำ “ซื้อ” SAV ด้วยราคาเป้าหมายไม่เปลี่ยนแปลงที่ 24.17 บาท โดยคาดว่ากำไรไตรมาส 1/2567 ที่แข็งแกร่งจะเป็น sentiment เชิงบวกต่อราคาหุ้น คาดกำไรปกติไตรมาส 1/2567 อยู่ที่ 107 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76% จากไตรมาสก่อนหน้า (QOQ) และ 229% YOY และทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ขณะที่คาดว่ารายได้จะอยู่ที่ 414 ล้านบาท ลดลง 23% QOQ แต่เพิ่มขึ้น 21% YOY รายได้ที่ลดลง QOQ เนื่องมาจากรายได้จากงานภายใต้สัญญาสัมปทานจำนวน 143 ล้านบาท ซึ่งบันทึกไว้ในไตรมาส 4/2566 รายได้จากการตีความมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 12 (TFRIC12) ซึ่งบันทึกเท่ากับต้นทุนอุปกรณ์และระบบที่ลงทุนในท่าอากาศยานนานาชาติเสียมเรียบแห่งใหม่ซึ่งเปิดดำเนินการในเดือน ต.ค. 2566 ขณะเดียวกันรายได้ที่เพิ่มขึ้น YOY น่าจะเป็นผลจากจำนวนเที่ยวบินที่ให้บริการที่เพิ่มขึ้น