MCOT ไตรมาส 1/67 ขาดทุน 79 ล้าน รายได้ค่าโฆษณา-ค่าเช่าเวลาดิ่ง

“บมจ.อสมท” หรือ MCOT เผยงบการเงินงวดไตรมาส 1/2567 ขาดทุน 79 ล้าน เพิ่มขึ้น 34% เป็นผลจากรายได้ธุรกิจหลักที่เป็นสื่อดั้งเดิมทั้งโทรทัศน์-วิทยุ “รายได้ค่าโฆษณา-รายได้ค่าเช่าเวลา” ลดลง

วันที่ 14 พฤษภาคม 2567 นายพรชิต เปี่ยมศิริ ผู้อำนวยการฝ่ายเลขานุการบริษัท บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) หรือ MCOT รายงานตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า งบการเงินงวดไตรมาส 1/2567 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2567 บริษัทมีผลขาดทุน 79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% จากไตรมาส 1/2566 ที่มีผลขาดทุน 59 ล้านบาท เป็นผลจากรายได้ของธุรกิจหลักที่เป็นสื่อดั้งเดิม (โทรทัศน์และวิทยุ) ประกอบด้วย

  • รายได้ธุรกิจโทรทัศน์ 60 ล้านบาท ลดลง 22%
  • รายได้ธุรกิจวิทยุ 68 ล้านบาท ลดลง 4%
  • รายได้ธุรกิจให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ระบบดิจิทัลภาคพื้นดิน (BNO) 115 ล้านบาท ลดลง 7%
  • ธุรกิจดิจิทัลและธุรกิจใหม่ 23 ล้านบาท ลดลง 8%

โดยบริษัทมีค่าใช้จ่ายรวม 350 ล้านบาท ลดลง 4% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน เป็นผลมาจากต้นทุนการให้บริการเพิ่มขึ้น 8 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายในการบริการลดลง 4 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการบริหารลดลง 18 ล้านบาท

ประเด็นสำคัญในผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 คือ 1.ภาพรวมรายได้ธุรกิจให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ระบบดิจิทัลภาคพื้นดิน (BNO) ยังคงสร้างรายได้เป็นอันดับหนึ่งให้กับบริษัท รองลงมาคือธุรกิจวิทยุและโทรทัศน์

2.ค่าใช้จ่ายลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน อันเนื่องมาจากค่าใช้จ่ายจากการจัดกิจกรรม On Ground หลายกิจกรรม แต่ค่าตัดจำหน่ายค่าเสื่อมราคาอาคาร และสิ้นสุดสัญญาเช่าสุทธิการใช้ตามสัญญาเช่าลดลง

3.ธุรกิจดิจิทัลและธุรกิจใหม่ ทำรายได้มากกว่าไตรมาสก่อนเพิ่มขึ้น 10% เป็นผลมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป และการปรับแผนรับมือกับสถานการณ์ปัจจุบันขององค์กร

ADVERTISMENT

สำหรับภาพรวมรายได้รวมไตรมาส 1/2567 บริษัทมีรายได้จำนวน 271 ล้านบาท ลดลง 11% โดยเป็นรายได้จากธุรกิจต่าง ๆ ดังนี้

1.ธุรกิจให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิทัล (BNO) และการให้บริการเช่าช่องสัญญาณโทรทัศน์ดาวเทียม (MCOT Satellite Network) คิดเป็น 43%
2.ธุรกิจโทรทัศน์คิดเป็น 22%
3.ธุรกิจวิทยุคิดเป็น 25%
4.ธุรกิจดิจิทัล (สื่อดิจิทัลต่าง ๆ ของ อสมท) และธุรกิจใหม่คิดเป็น 8%
5.อื่น ๆ คิดเป็น 2%

ทั้งนี้ รายได้ธุรกิจโทรทัศน์ลดลง 22% สวนทางกับอุตสาหกรรมเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น 2% เนื่องจากรายได้ค่าโฆษณาและรายได้ค่าเช่าเวลาลดลงจากการแข่งขันอย่างรุนแรงในการแย่งชิงเม็ดเงินโฆษณากันในอุตสาหกรรม

ธุรกิจวิทยุลดลง 4% ขณะที่การใช้งบฯโฆษณาทั้งอุตสาหกรรมของสื่อวิทยุ ลดลง 0.2% เนื่องจากรายได้ค่าโฆษณาลดลงจากคลื่นวิทยุส่วนกลาง

ธุรกิจให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิทัล (Broadcast Network Operation) รายได้ลดลง 7% สาเหตุเกิดจากสำนักงาน กสทช. ปรับอัตราค่าตอบแทนการเช่าใช้โครงข่ายช่อง SD และชอง HD ลง

ธุรกิจดิจิทัลและธุรกิจใหม่รายได้ลดลง 7% สาเหตุหลักเนื่องจากมีรายได้แลกเปลี่ยนโฆษณากับพันธมิตร และรายได้จากการจัดกิจกรรมเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 10,777 ล้านบาท ลดลงจากสิ้นปี 2566 ที่อยู่ 10,869 ล้านบาท มีสาเหตุหลักจากชำระเงินต้นและดอกเบี้ยจากเงินกู้ยืมและได้รับชำระหนี้จากลูกหนี้การค้าและลูกหนี้อื่น หนี้สินจำนวน 3,494 ล้านบาท และมีส่วนของผู้ถือหุ้นจำนวน 7,283 ล้านบาท

ภายใต้สภาวะและแนวโน้มเศรษฐกิจในปัจจุบัน บริษัทยังคงมุ่งเน้นการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการเพื่อสร้างรายได้ให้กับองค์กร โดยเริ่มต้นจากการจัดหาและลงทุนในธุรกิจใหม่และนวัตกรรม อีกทั้งการสร้างประโยชน์จากที่ดินและสินทรัพย์ รวมถึงการมองหาโอกาสในการลดต้นทุนทางการเงินของปี 2567 อีกด้วย