คลังดันมาตรการปลุกจีดีพี CIMBT แนะอัดฉีดช่วง พ.ค.-ก.ย.

local-market

ปัญหาเศรษฐกิจไทยโตต่ำ โดยเฉพาะล่าสุดตัวเลขไตรมาสแรกปี 2567 ออกมาขยายตัวแค่ 1.5% ต่ำสุดในอาเซียน ทำให้รัฐบาลเตรียมฟื้น “ครม.เศรษฐกิจ” กลับมาอีกครั้ง และจะประชุมนัดแรกในวันที่ 27 พ.ค.นี้

โดย “พิชัย ชุณหวชิร” รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ระบุว่า ศักยภาพเศรษฐกิจไทยน่าจะเติบโตได้มากกว่านี้ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้น รัฐบาลจึงเห็นว่ามีความจำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น

“ถึงแม้ว่าปัญหาเศรษฐกิจไทยจะมาจากโครงสร้าง ซึ่งต้องใช้เวลา แต่บางอย่างสามารถทำได้เลย แต่วิธีกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นจะเป็นอย่างไร ขอพิจารณาและเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาก่อน”

คลังเตรียมออกมาตรการใหม่

โดย “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” รมช.คลัง กล่าวว่า ขณะนี้คลังอยู่ระหว่างพิจารณามาตรการใหม่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยก่อนหน้านี้ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ได้เรียกหารือสถานการณ์เศรษฐกิจมาแล้ว 2-3 ครั้ง ซึ่งที่ผ่านมา ทางรัฐบาลก็มีการออกมาตรการกระตุ้นไปหนักมาก แต่ตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาสที่ 1 ปี 2567 ออกมาขยายตัว 1.5% แม้สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ก็ยังต่ำสุดเมื่อเทียบกับประเทศในอาเซียน

“ในการประชุม ครม.เศรษฐกิจวันจันทร์นี้ (27 พ.ค. 67) เป็นการพูดคุยอย่างเป็นทางการครั้งแรก คงจะพูดคุยกันว่ามีปัญหา มีวิกฤตอะไรบ้าง และดูว่ามีภาคส่วนไหนที่จำเป็นต้องดูแล และแบ่งงานว่าหน่วยงานไหนจะรับผิดชอบ เพื่อที่ออกกลไกมาตรการต่าง ๆ โดยกระทรวงการคลังก็มีการทำการบ้านไว้แล้วเช่นกัน และพร้อมที่จะนำเสนอใน ครม.เศรษฐกิจ เชื่อว่าทุก ๆ หน่วยงานก็เตรียมพร้อมเช่นกัน”

Advertisment

แนะกระตุ้นช่วง พ.ค.-ก.ย.

ขณะที่มุมมองจากนักเศรษฐศาสตร์ “ดร.อมรเทพ จาวะลา” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า รัฐควรมีมาตรการออกมากระตุ้นเศรษฐกิจระดับล่างและเอสเอ็มอี ในช่วงตั้งแต่เดือน พ.ค.-ก.ย. ซึ่งถือว่าเป็นช่วงโลว์ซีซั่น ที่กำลังซื้อต่าง ๆ จะตกลงมาในช่วงนี้ เพราะกว่าเงินดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาทจะเริ่มก็เป็นช่วงปลายปี ที่ปกติก็จะเป็นช่วงที่มีกำลังซื้อสูงอยู่แล้ว

“ผมไม่ห่วงช่วงปลายปี แต่เห็นว่าควรจะมีมาตรการในช่วงนี้ อยากเห็นมาตรการระยะสั้น ก่อนจะถึงปลายปี อาทิ การดูแลค่าครองชีพ พวกลดราคาพลังงานที่ควรทำต่อ การอัดฉีดสภาพคล่องให้เอสเอ็มอีผ่านทางแบงก์รัฐ อย่างธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) หรือธนาคารออมสิน”

กระตุ้นได้จำกัด ไม่ใช่กระสุนหนัก

ส่วนภาคตลาดทุน “ประกิต สิริวัฒนเกตุ” กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด กล่าวว่า เศรษฐกิจไตรมาสแรกที่ออกมาขยายตัวที่ 1.5% ต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน แต่หากดูภาพด้านใน การบริโภคภายในประเทศยังขยายตัวได้สูง และท่องเที่ยวที่ขยายตัวสูงเช่นกัน ส่วนการลงทุนภาครัฐยังหดตัว จากที่งบประมาณปี 2567 ล่าช้า

“ความเสี่ยงสูงสุดในระยะสั้น เป็นการลงทุนและการใช้จ่ายของภาครัฐ แม้งบฯลงทุนเป็นงบฯที่แยกออกมาประมาณ 7 แสนล้านบาท แต่ระยะเวลาอาจจะเร่งตัวได้ไม่เต็มที่ ส่วนงบฯอื่น ๆ โดยเฉพาะงบฯกลางอาจจะยังไม่ได้ใช้ เนื่องจากอาจจะต้องนำไปใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเลตในช่วงปลายปี ดังนั้น มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะออกมาใหม่อาจจะไม่ได้กระตุ้นได้มากนัก ไม่ได้เป็นกระสุนหนัก แต่คงกระตุ้นเป็นเซ็กเตอร์”

Advertisment

อย่างการฟื้นกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ซึ่งยังคงต้องติดตามเงื่อนไข หากลดหย่อนภาษีได้ตามเกณฑ์เดิมที่ 500,000 บาท ถือครอง 5 ปี จะสามารถทำให้ตลาดหุ้นปรับเพิ่มขึ้นได้

“ประกิต” กล่าวด้วยว่า แนวโน้มการลงทุนในช่วงไตรมาส 2-3 ปีนี้ คาดว่าจะยังไม่ได้คึกคักมาก ส่วนไตรมาส 4 จะเร่งเครื่องได้ดีขึ้น เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่น และหากดิจิทัลวอลเลตสามารถนำมาใช้ได้ จะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

แนะกระตุ้นทั้งระยะสั้น-ยาว

ฟากนายแบงก์ “อภินันท์ เกลียวปฏินนท์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ถามว่าจำเป็นหรือไม่ ต้องบอกว่ายังมีความจำเป็น แต่ภายใต้ทรัพยากรจำกัด มองว่าต้องแบ่งเป็นส่วนที่ต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ และแบ่งไว้สำหรับการจัดการปัญหาเชิงโครงสร้างด้วย

เพราะหากกระตุ้นเพียงอย่างเดียว เศรษฐกิจอาจเติบโตขึ้นบางช่วง แต่หลังจากนั้นเศรษฐกิจจะกลับมาแผ่วได้ ดังนั้น ประเทศอาจล้าหลังมากขึ้นเรื่อย ๆ หากเทียบกับประเทศอื่น

“การกระตุ้นไม่ผิด แต่ต้องแบ่งไว้ใช้กับเรื่องระยะยาวด้วย ไม่เฉพาะความสามารถในการทำโครงการระยะยาว แต่ต้องสนับสนุนให้เกิดไอเดียใหม่ ๆ เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างด้วย โดยมองว่ามาตรการที่จำเป็นอาจไม่ได้โครงการเดียวที่จำเป็น เช่น โครงสร้างพื้นฐาน R&D โครงการด้านการศึกษาต่าง ๆ ที่ต้องทำจริงจังมากขึ้น รวมถึงการสนับสนุนเซ็กเตอร์ที่ช่วยเพิ่มความแข็งขันของประเทศได้ เช่น การท่องเที่ยว”