ซื้อรถ EV ต้องรู้ ประกันคุ้มครอง “แบตเตอรี่” ลดลงปีละ 10%

EV

ซื้อรถ EV ต้องรู้ ประกันภัยจะคุ้มครอง “แบตเตอรี่” ปี 2-5 ลดลงไปปีละ 10% ตามอายุการใช้งานของรถ EV ปีที่ 6 เป็นต้นไป จ่ายค่าสินไหมทดแทนแบตเตอรี่ 50% ต่อราคาของแบตเตอรี่จากผู้จำหน่าย สมาคมแนะจ่ายเบี้ยเพิ่ม 400-500 บาท คุ้มครองแบตเต็ม 100% ทุกปี

วันที่ 10 มิถุนายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ในกลุ่มเฟซบุ๊กชื่อว่า “พวกเราคือผู้บริโภค” ในลักษณะขอแจ้งเตือนผู้ที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า

โดยระบุข้อความว่า จอดรถหน้าบ้าน ขณะฝนตก 15-20 นาที แบตเตอรี่ก็พังแล้ว โชว์รูมเสนอราคาค่าซ่อม เปลี่ยนแบตเตอรี่ รวมอื่น ๆ เกือบ 1,100,000 บาท โดยที่ประกันไม่รับเคลม รถถูกจอดทิ้งไว้ในศูนย์เป็นเดือน แต่ล่าสุดจบด้วยดี หลังบริษัทรถยนต์โทรศัพท์มาเคลียร์ จะซ่อมให้เสร็จภายใน 1 สัปดาห์ พร้อมเยียวยาระหว่างไม่มีรถใช้

ทั้งนี้ “ประชาชาติธุรกิจ” จะพาไปดูเงื่อนไขความคุ้มครองภายใต้กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า สำหรับรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เท่านั้น (Battery Electric Vehicle : BEV) ไม่รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าที่ดัดแปลงมาจากรถสันดาป

ซึ่งกรมธรรม์ดังกล่าวเป็นแบบประกันภัยรถยนต์ฉบับใหม่ ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้จัดทำขึ้นเพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกันในการรับประกันภัยรถยนต์ EV ของบริษัทประกันวินาศภัยในประเทศไทย โดยมีผลบังคับใช้ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2567 เป็นต้นไป

“แบตเตอรี่” ความคุ้มครองลดลงปีละ 10%

โดยเกณฑ์ใหม่ของกรมธรรม์ประกันภัยรถ EV สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับความคุ้มครองแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า คันที่เอาประกันภัย ในปีที่ 1 จะคุ้มครองค่าสินไหมทดแทนแบตเตอรี่ 100% แต่ปี 2-5 ความคุ้มครองจะลดลงไปปีละ 10% ตามอายุการใช้งานของรถ EV โดยปีที่ 6 เป็นต้นไป จะคุ้มครอง โดยจ่ายค่าสินไหมทดแทนแบตเตอรี่ 50% ต่อราคาของแบตเตอรี่จากผู้จำหน่าย โดยมีอัตราการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแบตเตอรี่รถ EV กรณีเปลี่ยนแบตเตอรี่รถ EV ใหม่ทั้งชุดดังต่อไปนี้ (ต่อราคาของแบตเตอรี่จากผู้จำหน่าย)

ADVERTISMENT
  • อายุการใช้งานแบตเตอรี่ไม่เกิน 1 ปี จ่ายค่าสินไหมทดแทนแบตเตอรี่ 100%
  • อายุการใช้งานแบตเตอรี่ไม่เกิน 2 ปี จ่ายค่าสินไหมทดแทนแบตเตอรี่ 90%
  • อายุการใช้งานแบตเตอรี่ไม่เกิน 3 ปี จ่ายค่าสินไหมทดแทนแบตเตอรี่ 80%
  • อายุการใช้งานแบตเตอรี่ไม่เกิน 4 ปี จ่ายค่าสินไหมทดแทนแบตเตอรี่ 70%
  • อายุการใช้งานแบตเตอรี่ไม่เกิน 5 ปี จ่ายค่าสินไหมทดแทนแบตเตอรี่ 60%
  • อายุการใช้งานแบตเตอรี่เกิน 5 ปี จ่ายค่าสินไหมทดแทนแบตเตอรี่ 50%

หมายเหตุ : การนับอายุการใช้งานของแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า เริ่มนับจากวันที่รับมอบรถยนต์จากผู้จำหน่ายรถยนต์ หรือวันที่ตามเอกสารการรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าจากผู้ผลิตหรือผู้จำหน่ายรถยนต์ แล้วแต่วันใดเกิดขึ้นก่อน

แนะจ่ายเบี้ยเพิ่ม 500 บาท คุ้มครองแบตเต็ม 100% ทุกปี

นายอรัญ ศรีว่องไทย ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหาร สมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าวว่า ถ้าผู้เอาประกันภัยต้องมีส่วนร่วมเรื่องความเสียหายของแบตเตอรี่ สมมุติต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ในปีที่ 5 บริษัทประกันภัยจะคุ้มครองความเสียหายของแบตเตอรี่ที่ 60% ที่เหลือ 40% ผู้เอาประกันภัยต้องจ่ายเงินเอง ถ้ากรณีแบตเตอรี่ลูกนั้นราคา 400,000 บาท ลูกค้าต้องมีส่วนร่วมจ่าย 160,000 บาท

ADVERTISMENT

ดังนั้นสิ่งที่สมาคมแนะนำภาคธุรกิจคือให้บริษัทที่รับประกันรถอีวีต้องแนบเอกสารแนบท้ายในเรื่องความคุ้มครองของการเปลี่ยนแบตเตอรี่ไฟฟ้าในทุกปี (ยกเว้นปีที่ 1) โดยให้ลูกค้าผู้เอาประกันจ่ายเบี้ยส่วนนี้เพิ่มประมาณ 400-500 บาท สำหรับทุนประกัน 200,000 บาท ซึ่งเงินจำนวนนี้ไม่แพงจนเกินไป และอธิบายให้ลูกค้าฟังว่าลูกค้าจะได้รับความคุ้มครองแบตเตอรี่เต็ม 100% ในทุกปี ที่ผู้เอาประกันภัยไม่ต้องมีส่วนร่วมจ่ายในกรณีต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่

เทียบค่าซ่อมรถอีวี VS สันดาป

นายอรัญกล่าวอีกว่า ขณะที่ในรอบปีที่ผ่านมา บริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ จำกัด (มหาชน) หรือ THRE ได้ทำสถิติการซ่อมรถอีวี เทียบกับรถยนต์ใช้น้ำมัน พบว่ากรณีเข้าศูนย์บริการ รถอีวีมีค่าใช้จ่ายสูงกว่ารถใช้น้ำมัน 4% แต่ถ้าซ่อมอู่ทั่วไป (อู่ในเครือของบริษัทประกันภัย) ค่าใช้จ่ายจะสูงกว่าถึง 54% เพราะค่าอะไหล่อีวีแพงกว่ารถสันดาป รวมทั้งต้องซื้ออะไหล่จากศูนย์

ทั้งนี้รถอีวีมีค่าซ่อมเฉลี่ยต่อเคลม 1 ครั้ง ประมาณ 24,000 บาท แต่รถใช้น้ำมัน 15,500 บาท สำหรับค่าซ่อมรถอีวีโดยเฉลี่ยจะเป็นค่าอะไหล่ 60% และค่าแรง 40% ขณะที่รถสันดาป ค่าอะไหล่กับค่าแรงประมาณ 50 : 50 ขณะที่ปัจจุบันรถอีวีเข้าซ่อมศูนย์สูงถึง 90% เพราะเป็นประกันปีแรก ประกอบกับปัจจุบันยังไม่ค่อยมีอู่ทั่วไปที่สามารถรับซ่อมรถอีวีได้

กรณีรถเสียหายสิ้นเชิง คืนทุนเต็มจำนวน

ทั้งนี้ในเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันรถ EV กรณีมีการประเมินว่ารถยนต์ EV ได้รับความเสียหายสิ้นเชิง (Total Loss) ซึ่งหมายถึงรถยนต์ได้รับความเสียหายจนไม่อาจซ่อมให้อยู่ในสภาพเดิมได้ หรือเสียหายไม่น้อยกว่า 70% ของมูลค่ารถยนต์ในขณะเกิดความเสียหาย บริษัทประกันภัยจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนเต็มจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ระบุไว้ในตารางกรมธรรม์

ในกรณีรถยนต์ได้รับความเสียหาย แต่ไม่ถึงกับเสียหายสิ้นเชิง หรือสูญหายบางส่วน บริษัทและผู้เอาประกันภัยอาจตกลงกันให้มีการซ่อม หรือเปลี่ยนรถยนต์ ซึ่งมีสภาพเดียวกันแทนได้ ทั้งนี้รวมทั้งอุปกรณ์ของรถยนต์นั้นหรือจะชดใช้เงินเพื่อทดแทนความเสียหายหรือสูญหายนั้นก็ได้

ในกรณีไม่สามารถตกลงจำนวนเงินเพื่อทดแทนความเสียหายได้ ให้ใช้ราคามาตรฐานที่สมาคมประกันวินาศภัยไทย ร่วมกับสมาคมอู่กลางการประกันภัยและสมาคมการซ่อมรถยนต์แห่งประเทศไทยกำหนด โดยได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียน (เลขาธิการ คปภ.)

ประกันคุ้มครอง ‘แบตเตอรี่