
พิชัยลุยเตรียมปรับโครงสร้างภาษีประเทศ เล็งเก็บ VAT จาก 7% หนุนลดความเหลื่อมล้ำ ชี้ทั่วโลกอยู่ที่ระดับ 15-25% พร้อมหั่นภาษีนิติบุคคลเหลือ 15% สร้างการแข่งขันสอดคล้องทั่วโลก
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน Sustainability Forum 2025 : Synergizing for Driving Business ว่า ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เช่น สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เร่งพิจารณาเรื่องการปรับโครงสร้างภาษีเพื่อสนับสนุนเรื่องการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล
ซึ่งภาษีที่มีส่วนสำคัญคือ ภาษีมูลค่าเพิ่ม (Value-added Tax : VAT) จะต้องปรับสอดคล้องกับหลายประเทศทั่วโลก เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยเก็บอยู่ที่ 7% จากเพดานที่ให้เก็บได้ 10% ซึ่งถือว่าน้อย เมื่อเทียบต่างประเทศทั่วโลก ที่มีการเก็บภาษี VAT เฉลี่ยที่ 15-25% ของประเทศ เช่น จีนเก็บภาษี VAT 19% สิงคโปร์ 9% จากเดิมที่อยู่ 5% และหลายประเทศในยุโรปขึ้นไปหลักเกือบ 20%
“เรื่องภาษี VAT เป็นภาษีที่เก็บจากทุกคน หลายคนมองว่าเป็นเรื่องที่อ่อนไหว แต่ถ้าหากเก็บให้สูงขึ้นและเหมาะสม จะทำให้ผู้ที่มีรายได้ต่ำรอด ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนจะลดลง เมื่อมีการเก็บสูงขึ้น คนรวยมาก ๆ จ่ายสูงขึ้น คนรวยปานกลางจ่ายสูงขึ้น เงินกองกลางก็ใหญ่ขึ้น ก็จะส่งกลับไปให้โอกาสกับคนที่มีรายได้น้อย ผ่านมาตรการต่าง ๆ ไม่ว่าจะสาธารณสุข ที่อยู่อาศัย การรักษาพยาบาล สถานศึกษา” นายพิชัยกล่าว
นายพิชัยกล่าวว่า นอกจากนั้นยังสามารถนำเงินกองกลาง ไปสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับนักธุรกิจในประเทศ ซึ่งรัฐบาลจะเข้าไปช่วยเรื่องโครงสร้างพื้นฐานให้มีต้นทุนต่ำ เช่น บ่อบำบัดน้ำเสีย การขนส่ง ต้นทุนพลังงาน เป็นต้น เมื่อต้นทุนต่ำ การส่งออกก็จะมีต้นทุนที่ต่ำลง
“การเก็บภาษีสูงเป็นเรื่องที่เราจะต้องพิจารณาอีกที ในแง่นโยบายการเงินทางด้านรายได้ของภาครัฐ ซึ่งผมนอนคิดทุกคืนว่าจะทำอย่างไร ก็จะทำให้คนเข้าใจก่อน เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน” นายพิชัยกล่าว
นอกจากเรื่องการปรับโครงการสร้างภาษี นอกจากเก็บภาษีแวตเพิ่มรายได้แล้ว ยังต้องลดภาษีนิติบุคคลจาก 20% ให้เหลือ 15% เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และแข่งขันกับชาวโลกได้ ซึ่งประเทศอื่นเขาก็ทำกัน