EXIM​ BANK เผยไตรมาส​แรกกำไร​ 334 ล้านบาท​ สินเชื่อ​คง​ค้าง​เอสเอ็มอีโตเพิ่ม​กว่า​ 12% หนี้เสียภาพรวม​ 4.26%

นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า​ ผลการดำเนินงานในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2562 EXIM BANK มีเงินให้สินเชื่อคงค้าง 106,342 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16,653 ล้านบาท หรือ 18.57% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน แบ่งเป็นสินเชื่อเพื่อการค้า 35,394 ล้านบาท และสินเชื่อเพื่อการลงทุน 70,948 ล้านบาท ทำให้เกิดปริมาณธุรกิจ (Business Turnover) 46,735 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้เป็นปริมาณธุรกิจของ SMEs เท่ากับ 25,834 ล้านบาท และ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2562 มีเงินให้สินเชื่อคงค้างแก่ SMEs เท่ากับ 40,978 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,529 ล้านบาท หรือ 12.42% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ในไตรมาสแรกปี 2562 EXIM BANK มีกำไรสุทธิ 334 ล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPLs Ratio) ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2562 อยู่ที่ 4.26% โดยมี NPLs จำนวน 4,534 ล้านบาทและเงินสำรองหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 9,631 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,285 ล้านบาทเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นสำรองหนี้พึงกันตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยจำนวน 5,293 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนเงินสำรองที่กันไว้แล้วต่อสำรองหนี้พึงกัน 181.97% ทำให้ EXIM BANK ยังคงดำรงฐานะการเงินที่มั่นคง

สำหรับการให้บริการประกันการส่งออก EXIM BANK มุ่งช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการไม่ได้รับชำระเงินจากคู่ค้าในต่างประเทศ และช่วยเพิ่มความมั่นใจและความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออกไทย ทั้งในตลาดการค้าเดิมและตลาดใหม่ ในไตรมาส 1 ปี 2562 EXIM BANK มีปริมาณธุรกิจด้านการรับประกันการส่งออกและประกันความเสี่ยงการลงทุนเท่ากับ 25,775 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8,670 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน โดยเป็นปริมาณธุรกิจของ SMEs จำนวน 6,939 ล้านบาท หรือ 26.92% ของปริมาณธุรกิจสะสมรวม

ในการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยขยายฐานการค้าและการลงทุนไปยังต่างประเทศ ปัจจุบัน EXIM BANK มีวงเงินที่ให้การสนับสนุนแก่สินเชื่อโครงการระหว่างประเทศรวมทั้งสิ้น 84,111 ล้านบาท และมีเงินให้สินเชื่อคงค้าง ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2562 จำนวน 40,771 ล้านบาท แบ่งเป็นสินเชื่อคงค้างให้แก่ผู้ประกอบการไทยที่ขยายฐานการค้าและการลงทุนไป CLMV จำนวน 29,372 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,512 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ ปัจจุบัน EXIM BANK มีสำนักงานผู้แทนในกรุงย่างกุ้ง เวียงจันทน์ และกรุงพนมเปญ ทำงานร่วมกับภาครัฐและเอกชนภายใต้ทีมประเทศไทย สร้างโอกาสการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่จำเป็นต่อการวางแผนและดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการใน CLM และพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการอย่างมีประสิทธิภาพ และอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการเปิดสำนักงานผู้แทน EXIM BANK ในเวียดนามต่อไป

“EXIM BANK ยังเดินหน้าบูรณาการความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชน ทำหน้าที่สร้างความเป็นเลิศทางการค้าให้แก่ผู้ประกอบการไทยที่พร้อมจะเริ่มต้นส่งออกหรือต้องการส่งออกเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งพัฒนาองค์กรและบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าการลงทุนระหว่างประเทศของไทย ต่อยอดการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน” นายพิศิษฐ์กล่าว