นางนฤมล น้อยอ่ำ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) เปิดเผยว่า ปัจจุบันโรงพยาบาลเครือ BDMS เป็น 1 ใน 5 ของโลก ซึ่งไม่ใช่แค่ในเชิงมาร์เก็ตแคปเพียงย่างเดียว แต่ยังรวมถึงรายได้และขนาดโครงสร้างจำนวนเตียงที่มีกว่า 8,000 เตียง ซึ่งขณะนี้มี 47 โรงพยาบาลทั่วประเทศ และคาดว่าในอีก 2 ปีจะขยายไปสู่ 50 โรงพยาบาล โดยโรงพยาบาลมีความพร้อมทั้งตัวการดูแลก่อนการเจ็บป่วยที่เรียกว่า Preventive Care และดูแลผู้ป่วยหลังจากที่ออกจากโรงพยาบาลไปแล้วที่เรียกว่า transitional care โดยโรงพยาบาลมีบริษัทน้ำเกลือ บริษัทยา และร้านขายยา เพราะฉะนั้นภาพรวมในวันนี้ถือว่าครบวงจร
สำหรับสิ่งที่โรงพยาบาลจะต้องเติมต่อไปเรื่อยๆ คือ Center Excellence เพื่อขยายการเติบโตขึ้นไป ซึ่งปัจจุบันจะเริ่มเห็นสังคมไทยก้าวสู่สังคมสูงวัย คาดว่าในอีก 10 ปีข้างหน้าจำนวนประชากรคนไทยที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปจะมีสัดส่วนมากกว่า 20% ซึ่งวันนี้สิ่งที่โรงพยาบาลได้พัฒนาความเป็นเลิศทางการแพทย์ในด้านการรักษาโรคในกลุ่มร้ายแรงที่มีผลการรักษาที่ดีและประสบความสำเร็จในการรักษา ได้แก่ โรคมะเร็ง โรคสมองและระบบประสาท โรคหัวใจ และโรคกระดูก เป็นต้น ซึ่งเป็น 5 โรคหลักที่พัฒนามา 3 ปีแล้ว โดย Center Excellence มีความพร้อมที่จะให้บริการ ขณะนี้มีจำนวนเตียงที่เปิดให้บริการแล้วมากกว่า 6,000 เตียง ซึ่งไม่ต้องสร้างโรงพยาบาลใหม่ แต่สามารถจะเติมเตียงเข้าไปครบเป้าโครงสร้างที่ 8,000 เตียง ได้ในอีก 2 ปีข้างหน้า โดยมีทีมแพทย์มากกว่า 12,000 คนทั่วประเทศ มีทั้งแบบ Full Time และ Part Time รวมถึงนางพยาบาลที่อยู่ในห้อง ICU และ CCU และห้องพยาบาลทั่วไปมากกว่า 8,000 คน
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- อย.เปิดชื่ออาหารเสริม พบสารอันตราย ร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต เตรียมดำเนินการตามกฎหมาย
- สงกรานต์ 2567 ทางด่วนฟรี มอเตอร์เวย์ฟรี สายไหนบ้าง ฟรีถึงวันไหน
“ความพร้อมทั้งหมดที่เราทำเราคิดว่าเราพร้อมที่จะให้บริการได้อย่างดียิ่ง สิ่งที่ภูมิใจอย่างยิ่งในวันนี้ คือการได้ร่วมมือกับบริษัทวิริยะประกันภัย ที่มองเห็นความสำคัญเรื่องเดียวกันเกี่ยวกับประชากรไทยจะต้องมีหลักการทำประกันสุขภาพ ซึ่งวันนี้มีคนไทยทำประกันสุขภาพไม่ถึง 10% ของประชากรทั้งประเทศ ซึ่งเป็นตัวเลขที่น้อยมาก โดยโครงสร้างปัจจุบันคนที่มาโรงพยาบาลจ่ายเงินจากกระเป๋าตนเอง แต่ในอนาคตจากความซับซ้อนของโรค จะทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งไม่ใช่จากการขึ้นค่ารักษาพยาบาล แต่เพิ่มขึ้นจากภาวะความเป็นอยู่ ความเครียด สังคมเมือง เรื่องของอาหารต่างๆ ที่ทำให้คนป่วย จึงเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะผลักดันให้ประชากรคนไทยมีการดูแลสุขภาพ” นางนฤมลกล่าว
โดยโปรแกรมที่โรงพยาบาลบีดีเอ็มเอสได้จับมือกับวิริยะประกันภัยเพื่ออำนวยความสะดวกผู้ที่ถือประกันสุขภาพอุ่นใจรักษ์ ขณะนี้กำลังพัฒนาระบบอิเล็กทรอนิกส์เคลม (Electronic Claim) หมายความว่าเราจะมีฐานข้อมูลของลูกค้าที่ซื้อประกัน ทันทีที่มีการเจ็บป่วยแจ้งเข้ามาระบบจะให้บริการได้อย่างทันที และจะมีบัตรของผู้ถือกรมธรรม์อุ่นใจรักษ์สามารถเข้าถึงบริการของโรงพยาบาล BDMS ได้ทุกอย่าง
นายเกรียงศักดิ์ โพธิเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทวิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันวิริยะมีลูกค้ามากกว่า 3 ล้านคน มีตัวแทนบริการมากกว่า 2 หมื่นคน หลักๆ เป็นลูกค้าประกันรถยนต์ เพราะฉะนั้นมีแนวคิดที่จะต่อยอดไปสู่การประกันสุขภาพ โดยมีเป้าหมายต้องการให้ประชาชนคนไทยเข้าถึงการประกันสุขภาพได้ จึงสร้างสินค้าประกันสุขภาพอุ่นใจรักษ์ ที่ได้รับความคุ้มครองที่พอดี เพื่อจะได้เข้าถึงการประกันสุขภาพคุ้มค่าและคุ้มราคา โดยสามารถรักษาในโรงพยาบาลที่มีมาตรฐานที่ดี มีคุณภาพความเป็นเลิศอย่างในเครือ BDMS
สำหรับโปรดักต์ประกันสุขภาพอุ่นใจรักษ์ 2 แบบคือ 1.ประกันสุขภาพอุ่นใจรักษ์ Glod เป็นสินค้าเหมาจ่ายต่อครั้ง ไม่จำกัดครั้งต่อปี ซึ่งจะเป็นการคุ้มครองผู้ป่วยในสูงสุด 5 ล้านบาทต่อครั้ง หมายความว่าเมื่อลูกค้าแอดมิท ค่ารักษาพยาบาลสูงสุดจะได้ต่อครั้ง 5 ล้านบาท ซึ่งถ้าเกิดรักษาในประเทศไทยก็น่าจะเพียงพอ โดยมีจุดเด่นที่ค่าห้องสูงถึง 15,000 บาทต่อวัน ซึ่งเหมาะกับตลาดลูกค้ากลุ่มบน คนอายุ 31-35 ปี เบี้ยประกันอยู่ที่ 35,976 บาทต่อปี หรือเฉลี่ยเบี้ยประกันรายเดือนอยู่ที่ 2,998 บาท
“แผนประกันสุขภาพตัวนี้จะมีให้เลือก 3 แผน ความคุ้มครองตั้งแต่ 1 ล้านบาท 3 ล้านบาท และ 5 ล้านบาท”
2.ประกันสุขภาพอุ่นใจรักษ์ Classic ที่ให้ความคุ้มครองแบบเหมาจ่ายต่อปี โดยที่สมาชิกสามารถเลือกรับความคุ้มครองเหมาจ่ายตั้งแต่บาทแรกหรือเลือกรับส่วนลดค่าเบี้ยประกันสูง 30-50% โดยเลือกแบบมีความรับผิดชอบส่วนแรกต่อปี (Deductible) กรณีมีสวัสดิการหรือความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลบางส่วนอยู่แล้ว โดยวงเงินคุ้มครองสูงสุดที่ 8 แสนบาท อายุ 31-35 ปี เบี้ยประกันอยู่ที่ 16,032 บาทต่อปี เฉลี่ยรายเดือนละ 1,336 บาท แต่หากเลือกจ่ายความรับผิดชอบส่วนแรก 50,000 บาทแรก สำหรับช่วงอายุ 31-35 ปี จะจ่ายเบี้ยประกันเพียง 9,396 บาทต่อปี
“แผนประกันสุขภาพตัวนี้จะมีให้เลือก 3 แผน ความคุ้มครองตั้งแต่ 4 แสนบาท 6 แสนบาท และ 8 แสนบาท”
ทั้งนี้เมื่อลูกค้าถือบัตรประกันอุ่นใจรักษ์สามารถซื้อประกันเดินทางเวลาเดินทางไปต่างประเทศ เวลาเจ็บป่วยในต่างประเทศจะมีส่วนลดให้ รวมถึงประกันบ้านเปี่ยมสุข ที่เป็นประกันอัคคีภัยเพื่อคุ้มครองทรัพย์สินในบ้านจะให้ส่วนลดพิเศษด้วย และอีกส่วนหนึ่งที่เราเพิ่มเข้าไป (Add-on) สำหรับลูกค้าประกันสุขภาพอุ่นใจรักษ์ Glod จะมีเลขาส่วนตัวที่คอยช่วยเวลาเดินทางไปต่างประเทศหรือในประเทศ เช่น จองโรงแรม, รถเช่า, คอนเสิร์ต ได้ตลอด 7 วัน 24 ชม.
อย่างไรก็ดีคาดว่ายอดขายประกันสุขภาพตัวนี้จะมียอดขายเข้ามาได้ราว 80% ของเบี้ยประกันสุขภาพปีนีเที่จะทำได้ราว 200 ล้านบาท และ ปัจจุบันยังมีอัตราการจ่ายสินไหมของประกันสุขภาพอยู่ที่ระดับ 60-65% โดยถือว่าอยู่ในระดับที่ดีและยังต่ำกว่าตลาด
ทางด้านภาพรวมเบี้ยประกันสุขภาพรายบุคคลของบริษัทในปีนี้อยู่ที่ 200 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนที่อยู่ 20 ล้านบาท ขณะที่เบี้ยประกันสุขภาพกลุ่มในปีนี้ไม่เน้นการเติบโต แต่ยังคงตั้งเป้าหมายเบี้ยไว้เท่ากับปีก่อนที่ 150 ล้านบาท ซึ่งภาพรวมตลาดประกันสุขภาพในปีนี้ยังเติบโตได้ดี แม้เศรษฐกิจยังชะลอตัว แต่คนยังให้ความสนใจที่จะหาผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มความคุ้มครองทางด้านสุขภาพ และค่ารักษาพยาบาล
อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1/62 บริษัทมีเบี้ยประกันภัยรับรวม 9,847.38 ล้านบาท เติบโต 5.17% แบ่งเป็น เบี้ยประกันภัยรถยนต์ 8,934.55 ล้านบาท เติบโต 4.71% และ เบี้ยประกันภัยนันมอเตอร์ 912.82 ล้านบาท เติบโต 9.88%
