บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด รายงานราคาทองคำ วันที่ 11 ต.ค. 2562 และแนวโน้มการซื้อขายทองคำ
ปัจจัยพื้นฐาน
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- “ทอง” รับข่าวร้ายดันราคาขาขึ้น บาทอ่อนค่าจ่อทะลุ 37 บาท
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 11.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนตลาดเกิดความหวังว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนครั้งที่ 13 นี้อาจจะมีความคืบหน้าเชิงบวก หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตว่า เขาจะพบปะกับนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน ที่ทำเนียบขาวในวันศุกร์นี้ ส่วนนายหลิว เหอ รองนายกจีน กล่าวในเชิงบวกเช่นกันว่า จีนมาเจรจาการค้ารอบนี้พร้อมกับความจริงใจ รวมถึงจีนเต็มใจทำข้อตกลงกับสหรัฐในประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายห่วงใย เพื่อป้องกันการทวีความตึงเครียดเพิ่มเติม สถานการณ์ดังกล่าวทำให้นักลงทุนกลับมาเปิดรับความเสี่ยงพร้อมกับกระตุ้นแรงขายทองคำที่อยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย อย่างไรก็ดี ราคาทองคำยังคงปรับตัวลงในกรอบ โดยได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ เนื่องจากความต้องการดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัยลดลง ประกอบกับปอนด์แข็งค่าขึ้นขานรับแนวโน้มการบรรลุข้อตกลงการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ด้านกองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำลง -2.05 ตัน สำหรับวันนี้ จีนและสหรัฐจะมีการเจรจาการค้ากันต่ออีกหนึ่งวัน จึงแนะนำเกาะติดความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด เพราะถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะชี้นำทิศทางราคาทองคำในระยะถัดไป
ปัจจัยทางเทคนิก
หลังจากราคาทองคำทดสอบแนวต้านที่ 1,517 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ยังไม่สามารถผ่านได้ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นช่วงสั้น เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมาเช่นกัน อย่างไรก็ตามหากการอ่อนลงของราคาไม่หลุดโซนแนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 1,486-1,483 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ประเมินว่าเป็นการแกว่งตัวในกรอบเดิม
กลยุทธ์การลงทุน
ซื้อขายเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น เปิดสถานะซื้อในบริเวณ 1,486-1,483 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ลดพอร์ตการลงทุนหากราคาหลุด 1,483 ดอลลาร์ต่อออนซ์) หากราคาดีดตัวขึ้นให้พิจารณาโซน 1,503-1,517 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นจุดปิดสถานะซื้อเพื่อทำกำไร
คำแนะนำ เน้นการซื้อขายเก็งกำไรระยะสั้น โดยเข้าซื้อในบริเวณ 1,486-1,483 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,483 ดอลลาร์ต่อออนซ์) พิจารณาขายเพื่อหวังทำกำไรช่วงสั้น หากไม่ผ่านแนวต้าน 1,503-1,517 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุน TFEX ลดการถือครองสถานะลงทุนลงเพื่อควบคุมความเสี่ยงจากวันหยุดยาว