ตลาดเงินเคลื่อนไหวในกรอบแคบ รอดูความชัดเจนการค้าจีน-สหรัฐ

ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2562 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (18/11) ที่ระดับ 30.25/26 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวอ่อนค่าลงจากระดับปิดตลาดในวันศุกร์ (15/11) ที่ระดับ 30.22/23 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ โดยค่าเงินปรับตัวอ่อนค่าลง หลังนักลงทุนหันไปถือครองสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น หลังตลาดคาดการณ์ทิศทางการเจรจาการค้าระหว่างจีน-สหรัฐ ว่าจะมีสัญญาณที่ดีขึ้น ภายหลังจากที่นายวิลเบอร์ รอส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐกล่าวว่า มีความคืบหน้าในการจัดทำรายละเอียดของข้อตกลง และมีความเป็นไปได้สูงมากที่สหรัฐ-จีนจะบรรลุข้อตกลงในการจัดทำข้อตกลงการค้าขั้นแรก ขณะเดียวกันกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือน ต.ค.สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% หลังจากลดลง 0.3% ในเดือน ก.ย. โดยได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายรถยนต์ และราคพลังงาน

สำหรับปัจจัยในประเทศ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของไทยในไตรมาส 3/62 ขยายตัว 2.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยขยายตัว 0.1% จากไตรมาสก่อนหน้า แต่ต่ำกว่าที่ตลาดคาดว่าจะขยายตัว 2.6% พร้อมปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 62 จากเดิมที่คาดว่าจะโต 2.7-3.2% เหลือ 2.6% และคาดว่าส่งออกจะหดตัวเพิ่มขึ้น 2% จาก 1.2% ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 30.23-30.26 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 30.24/25 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรในวันนี้ (18/11) ค่าเงินยูโรเปิดตลาดที่ระดับ 1.1058/60 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ปรับตัวแข็งค่าขึ้นจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (15/11) ที่ระดับ 1.1020/22 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ค่าเงินยูโรและปอนด์ปรับตัวแข็งค่าขึ้น โดยให้แรงหนุนจากสกุลเงินที่ผูกพันกับการค้าหลังตลาดคาดการณ์ในทางบวกต่อการเจรจาการค้าจีน-สหรัฐ ขณะที่ตลาดรอดูตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ยูโรโซนในวันศุกร์ (22/11) เพื่อใช้ในการประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจ ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1050-1.1068 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1061/63 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนในวันนี้ (18/11) เปิดตลาดที่ระดับ 108.80/82 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวอ่อนค่าลงจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (15/11) ที่ระดับ 108.66/68 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ โดยนักลงทุนเทขายเงินเยนในฐานะสกุลเงินปลอดภัย หลังการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนมีความคืบหน้า ทั้งนี้ค่าเงินยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบเนื่องจากตลาดขาดปัจจัยชี้นำ โดยค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 108.68-108.99 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 108.94/96 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือน พ.ย.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) (18/11), ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือน ต.ค. (19/11), คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 29-30 ต.ค. (20/11), ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการและภาคการผลิตขั้นต้นเดือน พ.ย. (22/11), ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน (22/11)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -1.35/-1.25 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ 0.05/0.9 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ