วายแอลจี บูลเลี่ยน รายงานราคาทองคำประจำวันที่ 9 มกราคม 2563

ภาพทองแท่ง ประกอบข่าวราคาทองคำ

บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด รายงานราคาทองคำประจำวันที่ 9 มกราคม 2563

ปัจจัยพื้นฐาน

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 17.31 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่านจะผลักดันให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 7 ปี บริเวณ 1,611.33 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากอิหร่านได้ยิงขีปนาวุธจำนวนหลายสิบลูกเข้าใส่ฐานทัพอากาศสหรัฐในอิรัก อย่างไรก็ดี ราคาทองคำไม่สามารถรักษาช่วงบวกไว้ได้และปรับตัวลงแรงหลังจากนั้น โดยได้รับแรงกดดันหลักมาจากแรงขายทำกำไร หลังจากไม่มีชาวอเมริกันเสียชีวิต หรือ บาดเจ็บจากเหตุดังกล่าว ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ระบุว่า “อิหร่านมีท่าทีที่อ่อนลง” และสหรัฐจะใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจเพิ่มเติมต่ออิหร่าน เห็นได้ชัดว่าการที่สหรัฐไม่เลือกใช้ปฏิบัติการทางทหารเพื่อตอบโต้อิหร่าน ทำให้ตลาดคลายความวิตก จนเป็นที่มาที่ทำให้สินทรัพย์ปลอดภัยรวมถึงทองคำถูกเทขาย พร้อมกับแรงซื้อคืนในสินทรัพย์เสี่ยง นอกจากนี้ทองคำยังได้รับแรงหนุนเพิ่มจากการแข็งค่าของดอลลาร์ หลังตัวเลขการจ้างภาคเอกชนเดือนธ.ค.ของสหรัฐจาก ADP ออกมาดีเกินคาดอีกด้วย นั่นทำให้ราคาทองคำร่วงลงถึง 59.33 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากระดับสูงสุดจนแตะระดับต่ำสุดบริเวณ 1,552 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างการซื้อขาย ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำลดลง -9.37 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ

ปัจจัยทางเทคนิก

หลังจากราคาทิ้งตัวลงส่งผลให้มุมมองเชิงบวกลดลง ทั้งนี้ ระยะสั้นหากราคาสามารถทรงตัวและพยายามสร้างฐานราคาเหนือแนวรับบริเวณ 1,553-1,552 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ส่งผลให้แรงซื้อและราคาอาจฟื้นตัวขึ้นในช่วงสั้น แต่แรงซื้ออาจไม่มากนักเนื่องจากสถานการณ์อิหร่าน-สหรัฐเริ่มคลี่คลาย โดยราคาอาจกลับมาเคลื่อนไหวในกรอบเพื่อรอปัจจัยใหม่ ๆ เข้ามาชี้นำ สำหรับวันนี้ประเมินแนวต้านระยะสั้นในโซน 1,567-1,580 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน

เน้นการซื้อขายทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว โดยเข้าซื้อเมื่อตลาดปรับตัวลงมาไม่หลุดแนวรับโซน 1,553-1,552 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่การเปิดสถานะขายอาจพิจารณาในโซน 1,567-1,580 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคายืนเหนือ 1,580 ดอลลาร์ต่อออนซ์)

คำแนะนำ ซื้อขายทำกำไรระยะสั้นตามกรอบราคา เปิดสถานะซื้อหากราคาสามารถยืนเหนือ 1,553-1,552 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ และให้ทยอยขายทำกำไรหากราคายังไม่ยืนเหนือโซน 1,567-1,580 ดอลลาร์ต่อออนซ์