“ศุลกากร” ชี้เดือนธ.ค.62 พบการกระทำผิดตามกฎหมาย 1,633 คดี มูลค่ารวม 102 ล้านบาท

ศุลกากรพบการกระทำผิด 1,633 คดี มูลค่ารวม 102 ล้านบาท ในเดือน ธ.ค.62 ชี้ “นาฬิกาข้อมือ-บุหรี่-กระเป๋า” เป็นสินค้ามีมูลค่าการลักลอบนำเข้าสำคัญ รวมทั้งสิ้น 46.4 ล้านบาท จ่อเปิดตัวระบบ Customs Chatbot “นายอากร” ระบบการตอบคำถาม-ให้บริการข้อมูลด้านศุลกากรอัตโนมัติ 30 ม.ค.63

นายชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ผลการตรวจพบการกระทำผิดในเดือนธ.ค.62 ตรวจพบการกระทำผิดตามกฎหมายศุลกากรหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับศุลกากรได้ทั้งสิ้น 1,633 คดี คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 102 ล้านบาท เป็นจำนวนคดีจากการลักลอบร้อยละ 30.2 จากการหลีกเลี่ยงร้อยละ 69.8 ซึ่งสินค้าที่มีมูลค่าการลักลอบนำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ นาฬิกาข้อมือ มูลค่ารวม 31.8 ล้านบาท บุหรี่ มูลค่ารวมประมาณ 11 ล้านบาท จำนวน 1.1 ล้านมวน และกระเป๋าชนิดต่าง ๆ มูลค่ารวม 3.6 ล้านบาท ส่วนสินค้าที่มีมูลค่าการลักลอบส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ เมทแอมเฟตามีน

สำหรับผลงานน่าสนใจในช่วงเดือนธันวาคม 2562 ได้แก่ 1.ยาเสพติด คือ เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2562 กรมศุลกากร ได้สืบสวนติดตามข้อมูลของกลุ่มผู้เดินทางที่มีความเสี่ยงในการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย โดยได้ทำการตรวจสอบผู้โดยสารต้องสงสัยชาวกิเนียน เดินทางมาจากประเทศกินี ปลายทางกรุงเทพ พบยาเสพติดโคคาอีน (ยาเสพติดให้โทษประเภท 2) รวมทั้งสิ้นจำนวน 42 ก้อน น้ำหนัก 575 กรัม มูลค่า 1.275 ล้านบาท และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม 2562 กรมศุลกากร ได้ตรวจพบพัสดุต้องสงสัย ณ ส่วนบริการศุลกากรไปรษณีย์ สำนักงานศุลกากรกรุงเทพ จำนวน 1 หีบห่อ ต้นทางประเทศสโลเวเนีย สำแดงชนิดของเป็น LED แต่ผลการตรวจพบเป็นเม็ดยาสีฟ้า ซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (Ecstasy) จำนวน 1,010 เม็ด และกัญชาแห้ง จำนวน 285 กรัม ซุกซ่อนอยู่ในป้ายไฟ LED

2.สินค้าเกษตร เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม กรมศุลกากร ได้จับกุมรถบรรทุกพ่วง บรรทุกข้าวสารเหนียว จำนวน 660 กระสอบ กระสอบละประมาณ 48 กก. ลักลอบหนีศุลกากร บริเวณริมถนนมิตรภาพ(ขาเข้า กทม.) ต.ธารปราสาท อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา มูลค่ารวมกว่า 1.3 ล้านบาท และเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2562 กรมศุลกากร ได้ตรวจค้น โกดังแห่งหนึ่ง ตำบลบางเลน อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม พบสินค้าเกษตรประเภทหอมแขกพม่า จำนวน 740 กระสอบ น้ำหนักโดยประมาณ 6 ตัน รวมมูลค่ากว่า 3 แสนบาท

นอกจากนี้ กรมศุลกากรยังได้ยึดมะพร้าว ลักลอบเข้าประเทศกว่า 20 ตัน เพื่อความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี ปกป้องสังคมและสิ่งแวดล้อม และเข้มงวดพิเศษในการสกัดกั้นป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้า สินค้าเกษตร และสินค้าควบคุมการนำเข้า โดยเมื่อวันพุธที่ 8 มกราคม 2563 เวลา 04.00 น. กรมศุลกากร โดยเจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามปราณบุรี ฝ่ายสืบสวนปราบปราม 2 ส่วนสืบสวนปราบปราม 1 กองสืบสวนและปราบปราม ได้ทำการตรวจค้นรถ 6 ล้อบรรทุก และได้ยึดผลมะพร้าวปอกเปลือก จำนวน 11 ตัน ที่บรรทุกมาพร้อมกับรถคันดังกล่าวในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงของด่านตรวจของศุลกากรปราณบุรี ต่อมาเมื่อวันศุกร์ที่ 10 มกราคม 2563 เวลา 03.00 น. เจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามปราณบุรี ได้ตรวจค้นรถ 10 ล้อบรรทุก และยึดผลมะพร้าวปอกเปลือก ได้เพิ่มอีกจำนวน 9 ตัน รวม 2 วัน ยึดได้ทั้งหมด 20 ตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 280,000 บาท

พร้อมกันนี้ กรมศุลกากรตรวจค้นโกดังสินค้าพบสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท โดยในวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2563 เจ้าหน้าที่ศุลกากรฝ่ายสืบสวนและปราบปราม ส่วนควบคุมทางศุลกากร สำนักงานศุลกากรภาคที่ 1 ได้ทำการตรวจค้นโกดังสินค้า ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พบสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า รวมมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท

ทั้งนี้ วันที่ 30 ม.ค.63 กรมศุลกากรจะมีการจัดงานเปิดตัวระบบ Customs Chatbot “นายอากร” โดยกรมศุลกากรได้พัฒนาระบบการตอบคำถามและให้บริการข้อมูลด้านศุลกากรโดยอัตโนมัติ หรือ Customs Chatbot เพื่อพัฒนากระบวนงานในการให้บริการให้มีขีดสมรรถนะสูงและทันสมัย มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง สอดคล้องกับการพัฒนาองค์กรสู่ Customs 4.0 โดย Chatbot ที่พัฒนาขึ้นจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการประชาสัมพันธ์และการให้บริการด้านข้อมูลข่าวสารในด้านต่าง ๆ ทั้งด้านพิธีการศุลกากร พิกัดอัตราศุลกากร กฎหมายศุลกากร กฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรในด้านต่าง ๆ เช่น คลังสินค้าทัณฑ์บน เขตปลอดอากร เขตประกอบการเสรี การขอคืนอากร ซึ่งการนำระบบ Customs Chatbot มาใช้ในการตอบคำถามโดยอัตโนมัติจะสามารถเข้าถึงผู้รับบริการได้อย่างทั่วถึง ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องเดินทางมาติดต่อในวันเวลาราชการ สามารถลดเวลาและค่าใช้จ่ายของผู้รับบริการ