วายแอลจี บูลเลี่ยน รายงานราคาทองคำประจำวันที่ 14 มกราคม 2563

บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด รายงานราคาทองคำประจำวันที่ 14 มกราคม 2563

ปัจจัยพื้นฐาน

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 12.74 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากความคืบหน้าเชิงบวกในความพยายามที่จะแก้ไขข้อขัดแย้งทางการค้าระหว่างประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 1 และ 2 ของโลกอย่างจีนและสหรัฐ หลังหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เตรียมจัดพิธีลงนามข้อตกลงการค้า Phase one กับจีนที่ทำเนียบขาวในวันพุธที่ 15 ม.ค.นี้ เวลา 11.30 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 23.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่กระทรวงการคลังสหรัฐออกแถลงการณ์ระบุว่า “รัฐบาลสหรัฐได้ถอดจีนออกจากรายชื่อประเทศที่บิดเบือนค่าเงินแล้ว” สัญญาณเชิงบวกดังกล่าวได้กระตุ้นแรงซื้อสินทรัพย์เสี่ยง จนหนุนให้ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดในแดนบวก ส่วนดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮ นอกจากนี้สกุลเงินดอลลาร์ยังได้อานิสงค์เชิงบวกจากข่าวดังกล่าวอีกด้วย ประกอบกับเงินปอนด์อ่อนค่าลงหลังจากธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยจึงเป็นปัจจัยหนุนสกุลเงินดอลลาร์เพิ่มเติม ดังนั้น ทั้งการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐและการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ จึงอยู่เบื้องหลังการปรับตัวลดลงของราคาทองคำวานนี้ต่อเนื่องมาจนถึงเช้าวันนี้ในตลาดเอเชีย สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)ของสหรัฐ

ปัจจัยทางเทคนิก

ราคาสร้างระดับต่ำสุดใหม่จากวันก่อนหน้า และหากระหว่างวันราคาทองคำทดสอบแนวต้านที่ 1,545-1,552 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ไม่สามารถผ่านได้ ก็ยังคงต้องระมัดระวังแรงขายที่จะออกมา อย่างไรก็ตาม หากการอ่อนลงของราคาไม่หลุดโซนแนวรับบริเวณ 1,528 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ประเมินว่าอาจเกิดการดีดตัวขึ้นและพยายามสร้างฐานของราคาอีกครั้ง

กลยุทธ์การลงทุน

เปิดสถานะขายหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,545-1,552 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากผ่าน 1,561 ดอลลาร์ต่อออนซ์ )หากการอ่อนตัวลง สามารถเข้าซื้อคืนเพื่อปิดสถานะขายทำกำไรหากราคายืนเหนือแนวรับโซน 1,528 ดอลลาร์ต่อออนซ์

คำแนะนำ หากราคาทองคำไม่สามารถยืน 1,545-1,552 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ให้แบ่งทองคำออกขายเพื่อบางส่วน แต่หากผ่านได้ให้ชะลอการขายออกไป หากรับความเสี่ยงได้อาจเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นหากไม่หลุดแนวรับ 1,528 ดอลลาร์ต่อออนซ์