ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า หนี้ครัวเรือนปี 2563 อาจสูงเกิน 80% ต่อจีดีพี ติดตามความสามารถในการชำระหนี้ของครัวเรือนหลายกลุ่ม
โดยหนี้ครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัวยังคงเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเนื่อง และมีผลทำให้สัดส่วนหนี้ครัวเรือนขยับขึ้นมาที่ 79.1% ต่อจีดีพีในไตรมาส 3/2562 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี ทั้งนี้สัญญาณหนี้ครัวเรือนสูงจากข้อมูลระดับภาพรวมทั้งประเทศ สอดคล้องกับผลสำรวจสถานการณ์หนี้สินและเงินออมของครัวเรือนของศูนย์วิจัยกสิกรไทย ซึ่งพบว่า ผู้กู้-ครัวเรือนส่วนใหญ่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นหนี้และมีภาระผ่อนชำระสินเชื่ออย่างน้อย 2 ประเภทกับสถาบันการเงิน
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- ด่วน! วอยซ์ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
นอกจากนี้ ผลสำรวจฯ ของศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังพบว่า ผู้กู้-ครัวเรือนหลายกลุ่มมีภาระหนี้ต่อรายได้ (Debt Service Ratio: DSR) สูงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม GenY และกลุ่มรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือนที่มีสัดส่วน DSR อยู่ที่ระดับ 42.0% และ 42.7% ตามลำดับ (สูงกว่าสัดส่วน DSR ของครัวเรือนในภาพรวมผลสำรวจฯ ที่ 39.4%) สัญญาณดังกล่าวเป็นไปในทิศทางเดียวกับข้อมูลภาพรวมในระดับประเทศ ซึ่งสะท้อนว่า ผู้กู้-ครัวเรือนกลุ่มนี้ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการใช้จ่ายและการก่อหนี้เพิ่มเติมในปี 2563
สำหรับแนวโน้มหนี้ครัวเรือนในปี 2563 นี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า หนี้ครัวเรือนอาจเพิ่มขึ้นในอัตราที่เร็วกว่าการเติบโตของเศรษฐกิจ ซึ่งทำให้มีความเป็นไปได้ที่จะเห็นสัดส่วนหนี้ครัวเรือนขยับขึ้นไปอยู่ในกรอบประมาณ 80.0-81.5% ต่อจีดีพีในปี 2563 ขณะที่ประเด็นที่ต้องติดตามในช่วงหลังจากนี้ คงเป็นแนวทางการเข้าดูแลและแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนที่เป็นโจทย์ท้าทายในภาวะที่เศรษฐกิจยังชะลอตัว และมีความซับซ้อนตามพฤติกรรมและเงื่อนไขที่เป็นสาเหตุให้ครัวเรือนแต่ละกลุ่มเป็นหนี้