วายแอลจี บูลเลี่ยน รายงานราคาทองคำประจำวันที่ 20 มกราคม 2563

ราคาทอง ทองคำแท่งและทองรูปพรรณ

บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด รายงานราคาทองคำประจำวันที่ 20 มกราคม 2563

ปัจจัยพื้นฐาน

ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.05 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ทองคำจะถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์หลังการเปิดเผยตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านที่พุ่งขึ้นเกินคาดถึง 16.9% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 1.608 ล้านยูนิต แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2016 ประกอบกับดัชนีดาวโจนส์, S&P500 และ Nasdaq ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกทำนิวไฮอีกครั้งในวันศุกร์ อย่างไรก็ดี แรงกดดันดังกล่าวไม่ได้ส่งผลลบต่อราคาทองคำมากนัก ขณะที่แรงซื้อทองคำจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเจรจาการค้าจีนและสหรัฐในอนาคต หลังนักลงทุนบางส่วนมองว่าข้อตกลง Phase One ไม่สามารถแก้ไขข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนได้ บวกรวมกับแรงซื้อในช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีนยังคงช่วยพยุงราคาทองคำเอาไว้อย่างต่อเนื่อง ที่น่าสนใจ คือ กองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่มในวันศุกร์มากถึง 19.33 ตัน ซึ่งเป็นการถือครองทองคำเพิ่มภายในวันเดียวมากสุดนับตั้งแต่วันศุกร์ที่ 21 มิ.ย.2019 และทำให้ภาพรวมการถือครองทองคำของ SPDR จากที่เคยเป็นลบในปีนี้กลับมาเป็นบวกอีกครั้งสะท้อนกระแสเงินทุนที่ไหลเข้ากองทุน ETF ทองคำ สำหรับวันนี้ ปริมาณการซื้อขายในช่วงตลาดสหรัฐอาจเบาบางกว่าปกติ เนื่องจากตลาดเงิน ตลาดทุน ตลาดพันธบัตรและตลาดทองคำสหรัฐจะปิดทำการเนื่องในวัน Martin Luther King

ปัจจัยทางเทคนิก

แม้ราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้น แต่หากระยะสั้น ราคายังไม่สามารถทรงตัวเหนือแนวต้าน 1,561-1,563 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ยังมีโอกาสที่ราคาจะอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับโซน 1,545-1,536 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากสามารถยืนเหนือรับดังกล่าวได้อย่างมั่นคง จะเกิดแรงซื้อดันให้ราคาปรับตัวขึ้นอีกครั้ง

กลยุทธ์การลงทุน

ซื้อขายระยะสั้นจากการแกว่งตัว ถ้าเกิดการอ่อนตัวลงมาอาจเปิดสถานะซื้อหากราคาทองคำไม่หลุด 1,545-1,536 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตาม(ลดพอร์ตการลงทุนสถานะซื้อหากราคาหลุด 1,536 ดอลลาร์ต่อออนซ์) โดยรอปิดสถานะทำกำไรหากไม่สามารถยืนเหนือบริเวณแนวต้าน 1,561-1,563 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากผ่านได้สามารถถือสถานะซื้อต่อ


คำแนะนำ ราคาอาจเคลื่อนไหวในกรอบ หากราคาไม่ผ่านแนวต้าน 1,561-1,563 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้รอเปิดสถานะซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาใกล้ 1,545-1,536 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,536 ดอลลาร์ต่อออนซ์)