เปิดชื่อบริษัทประกันคุ้มครอง “ห้างเทอร์มินอล 21 โคราช” ทุนรวมกว่า 5 พันล้าน

จากเหตุการณ์ทหารกราดยิงประชาชนและเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจในห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 โคราช จนมีผู้เสียชีวิตร่วม 27 ราย และบาดเจ็บ 57 ราย จากการได้ตรวจสอบการจัดทำประกันภัยคุ้มครองทรัพย์สินของห้างสรรพสินค้า เทอร์มินอล 21 โคราช และการทำประกันชิวิต และประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (พีเอ) ปรากฎว่า ห้างสรรพสินค้าดังกล่าวได้ทำประกันภัยเสี่ยงภัยทรัพย์สินไว้ โดยเริ่มคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม 2562 ถึงสิ้นสุดคุ้มครองวันที่ 18 ธันวาคม 2563 ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1.บมจ.ทิพยประกันภัยรับประกันสัดส่วน 40% วงเงิน 2,074,000,000 บาท 2.บมจ.ฟอลคอนประกันภัย 25% วงเงินรวม 1,296,250,000 บาท 3.บมจ.อาคเนย์ประกันภัย 15% วงเงินรวม 777,750,000 บาท และ 4.บมจ.แอกซ่าประกันภัย 10% วงเงินรวม 518,500,000 บาท และ บมจ.ไทยไพบูลย์ประกันภัย 10% วงเงินรวม 518,500,000 บาท หรือรวมกันประมาณ 5,185 ล้านบาท

ส่วนการประกันภัยธุรกิจหยุดชะงัก (เนื่องจากภัยที่เอาประกันภัยไว้อยู่ภายใต้กรมธรรม์ประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์) ได้มีการทำประกันไว้ในสัดส่วน 1.ทิพยประกันภัย 40% 2.บมจ.ฟอลคอนประกัน 25% 3.บมจ.อาคเนย์ประกัน 15% 4.บมจ.แอกซ่าประกัน 10% และ 5.บมจ.ไทยไพบูลย์ประกัน 10% ในวงเงินเอาประกันภัยรวม 464,000,000 บาท นอกจากนี้ ยังได้มีการซื้อประกันภัยความรับผิดชอบต่อรับผิดต่อบุคคลภายนอกไว้กับ บมจ.ชับบ์สามัคคีประกันภัยอีกด้วย

แหล่งข่าววงการประกันภัย เปิดเผยว่า นอกจากผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บแล้ว (ซึ่งต้องตรวจสอบความคุ้มครองกรมธรรม์ประกันชีวิตและประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล หรือสวัสดิการของหน่วยงานที่ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บในสังกัด) ผลกระทบต่อห้าง Terminal 21 ในการปิดตัวชั่วคราวครั้งนี้ ไม่รู้ว่าจะได้รับความคุ้มครองจากกรมธรรม์ใดบ้าง

หากจะถามความรับผิดของห้างต่อบุคคลภายนอกนั้น ประเด็นนี้ไม่ได้เป็นการกระทำของห้างเลย เพราะห้างไม่ได้มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวข้องกับการยิงคนเสียชีวิต จะมีแต่ห้างอาจจะช่วยเหลือเยียวยาค่าทำศพ หรือค่ารักษาพยาบาล นอกกรมธรรม์ ส่วนความเสียหายของทรัพย์สินที่โดนยิงไปมาระหว่างคนร้ายกับเจ้าหน้าที่เป็นเรื่องที่น่าคิด

ความสูญเสียด้านรายได้ที่อาจต้องปิดห้างไปอีก 2-3 อาทิตย์ เพื่อเคลียร์พื้นที่ซ่อมแซมรูกระสุน และความเสียหายในทรัพย์สินอื่นๆ และความเสียหายจากหลักประกัน (Collateral Damage) ที่ห้างจะมีคนมาเข้าห้างลดน้อยลง เพราะความหวาดกลัวต่างๆ

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ และสายกลยุทธ์องค์กร บูรณาการการทำงานร่วมกับ สายส่งเสริมและประกันภัยภูมิภาค โดยสำนักงาน คปภ. ภาค 4 (นครราชสีมา) และสำนักงาน คปภ. จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งดูแลรับผิดชอบพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ติดตามและลงพื้นที่ตรวจสอบว่าผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า มีการทำประกันภัยประเภทใดไว้บ้าง เพื่อช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกในการนำระบบประกันภัยเข้าไปเยียวยาความสูญเสียที่เกิดขึ้นในครั้งนี้อย่างเต็มที่

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คปภ.

รายงานเบื้องต้นจากสำนักงาน คปภ. ภาค 4 (นครราชสีมา) ว่า ห้างเทอร์มินอล 21 จังหวัดนครราชสีมา มีการทำประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน ไว้กับ บมจ.ทิพยประกันภัย กรมธรรม์เลขที่ 14016-114-200001384 เริ่มคุ้มครองวันที่ 18 ธันวาคม 2562 สิ้นสุดความคุ้มครอง วันที่ 18 ธันวาคม 2563

โดยมีสัดส่วนของบริษัทประกันภัยที่ร่วมรับประกันภัย ดังนี้ บมจ.ทิพยประกันภัย 40% บมจ.ฟอลคอนประกันภัย 25% บมจ.อาคเนย์ประกันภัย 15% บมจ.แอกซ่าประกันภัย 10% บมจ.ไทยไพบูลย์ประกันภัย 10% และ มีการทำประกันภัยธุรกิจหยุดชะงัก (เนื่องจากภัยที่เอาประกันภัยภายใต้กรมธรรม์ประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน) กรมธรรม์เลขที่ 14059-114-200000446 เริ่มคุ้มครองวันที่ 18 ธันวาคม 2562 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 18 ธันวาคม 2563

รวมทั้งยังมีการทำประกันภัยความรับผิดต่อบุคคลภายนอก ไว้กับ บมจ.ชับบ์สามัคคีประกันภัย กรมธรรม์เลขที่ CPL0020608PL-21136 เริ่มความคุ้มครองวันที่ 18 ธันวาคม 2562 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 18 ธันวาคม 2563 โดยให้ความคุ้มครองในกรณีเกิดความเสียหายต่อบุคคลภายนอก รวมถึงผู้เช่าภายในอาคารหรือพื้นที่เอาประกันภัย อันเนื่องมาจากความบกพร่อง การประมาทเลินเล่อความผิดพลาดในการดำเนินงานของผู้เอาประกันภัย หรือลูกจ้างของผู้เอาประกันภัย และผู้เอาประกันภัยมีหน้าที่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นตามกฎหมาย ในฐานะเจ้าของหรือสถานที่ รวมถึงค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการดำเนินคดี ทั้งนี้เป็นไปตามเงื่อนไขข้อบังคับข้อยกเว้นของกรมธรรม์ประกันภัยความรับผิดต่อบุคคลภายนอก

จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ มีการทำประกันภัย ดังนี้ นางพัชรา จันทร์เพ็ง ทำประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่ม (อุ่นใจ) ไว้กับ บมจ.วิริยะประกันภัย เริ่มคุ้มครองวันที่ 23 มีนาคม 2562 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 23 มีนาคม 2563 และจัดทำประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล บัตร Palladium ไว้กับ บมจ. ทิพยประกันภัย, นางสาวอาริยา กลีบเมฆ ทำประกันชีวิต ไว้กับ บมจ.กรุงไทย-แอกซ่าประกันชีวิต เริ่มคุ้มครองตั้งแต่ ปี 2560 สิ้นสุดความคุ้มครอง ถึงอายุ 85 ปี และการประกันสินเชื่อ ไว้กับ บมจ.ไทยประกันชีวิต , นายเอกวิน ยืนทน ทำประกันอุบัติเหตุกลุ่ม สำหรับสถานศึกษา ไว้กับ บมจ.ชับบ์สามัคคีประกันภัย

พลทหารเมธา เลิศสิริ ทำประกันอุบัติเหตุ ไว้กับ บมจ.เอ็มเอสไอจีประกันภัย , ดาบตำรวจชัชวาลย์ แท่งทอง ทำประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (Pearl) ไว้กับ บมจ.ทิพยประกันภัย , ร้อยเอกศิริวัฒน์ แสงประสิทธิ์ ทำประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (Pearl) ไว้กับ บมจ.ทิพยประกันภัย , นายอำนาจ บุญเกื้อ ทำประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (Pearl) ไว้กับ บมจ.ทิพยประกันภัย และประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลผ่านธนาคารออมสิน ไว้กับ บมจ.ทิพยประกันภัย

นายจิรวัฒน์ รัดกลาง ทำประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (Pearl) ไว้กับ บมจ.ทิพยประกันภัย เภสัชกรหญิงนริศรา โชติกลาง ทำประกันแบบเพนชั่น ช้อยส์ แม็กซี่ PN25 ไว้กับ บมจ.โตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย) และทำประกันสินเชื่อ ไว้กับ บมจ.ไทยประกันชีวิต นายพีรพัฒน์ พละสาร ทำประกันชีวิตกลุ่ม และประกันอุบัติเหตุ ขยายความคุ้มครองกรณีถูกฆาตกรรมหรือลอบทำร้าย ไว้กับ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต

ในส่วนของผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้ มีการทำประกันภัย ดังนี้ เด็กชายเจริญศักดิ์ จำปาทอง ทำประกันอุบัติเหตุกลุ่ม สำหรับสถานศึกษา ไว้กับ บมจ.วิริยะประกันภัย เริ่มคุ้มครองวันที่ 1 พฤษภาคม 2562 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 1 พฤษภาคม 2563 , นายสิทธิศักดิ์ วาดสูงเนิน ทำประกันอุบัติเหตุ ไว้กับ บมจ.กรุงเทพประกันภัย , เด็กชายธีรวัฒน์ วัชรีเสวิน ทำประกันอุบัติเหตุกลุ่ม สำหรับสถานศึกษา ไว้กับ บมจ.วิริยะประกันภัย เริ่มคุ้มครองวันที่ 1 พฤษภาคม 2562 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 1 พฤษภาคม 2563

พลทหารโชคชัย มูลจันทร์ ทำประกันอุบัติเหตุ ไว้กับ บมจ.เอ็มเอสไอจีประกันภัย , พลทหารอรรถพล วงศ์พล ทำประกันอุบัติเหตุ ไว้กับ บมจ.เอ็มเอสไอจี ประกันภัย , นายทิพยา แก้วพรหม ทำประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (บัตร SMART LIFE) และประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ไว้กับ บมจ.ทิพยประกันภัย

ดาบตำรวจสามชัย แพเกาะ ทำประกันชีวิตกลุ่ม และประกันอุบัติเหตุ (คุ้มครองการเสียชีวิตและสูญเสียอวัยวะ) ขยายความคุ้มครองกรณีถูกฆาตกรรมหรือลอบทำร้าย ไว้กับ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต สำหรับผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งนั่งอยู่ในรถคันที่มีประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ จะได้รับความคุ้มครองการประกันอุบัติเหตุตามเอกสารแนบท้ายตามจำนวนที่ระบุไว้ในกรมธรรม์อีกด้วย

นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ. ภาค 4 (นครราชสีมา) สมาคมประกันวินาศภัยไทย สมาคมประกันชีวิตไทย และบริษัทประกันภัย ได้เร่งตรวจสอบเพิ่มเติมว่า ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บทั้งหมดจากเหตุการณ์นี้มีการทำประกันภัยส่วนบุคคลประเภทอื่น ๆ ไว้หรือไม่

หากตรวจสอบพบว่ามีการทำประกันภัยประเภทอื่น ๆ เช่น กรมธรรม์ประกันชีวิต กรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ก็จะได้รับค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัยที่ระบุไว้ ส่วนผู้บาดเจ็บที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โรงพยาบาลเซนต์เมรี่ โรงพยาบาลกรุงเทพราชสีมา และโรงพยาบาลค่ายสุรนารี สำนักงาน คปภ.ภาค 4 (นครราชสีมา)

สำนักงาน คปภ. จังหวัดนครราชสีมา ได้เข้าเยี่ยมและอำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้แก่ครอบครัวของผู้บาดเจ็บในการตรวจสอบว่าผู้บาดเจ็บมีประกันภัยประเภทอื่น ๆ หรือไม่ ทั้งนี้เพื่อใช้ระบบประกันภัยเข้าไปเยียวยาให้กับผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุการณ์ครั้งนี้อย่างเต็มที่

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ‘เทอมินอล 21 โคราช’ แหล่งช็อปปิ้งพันล้าน ก่อนเป็นสมรภูมิกราดยิง 30 ราย