ส่องกลยุทธ์ลงทุนหุ้นกลุ่มสื่อสาร โบรกลุ้นผลประมูล 5G-จ่อปรับกำไรปี’63

โบรกฯแนะกลยุทธ์ลงทุนหุ้นสื่อสาร-จ่อปรับประมาณการกำไรใหม่หลังรู้ผลประมูลคลื่น 5G “บล.กสิกรไทย” แนะลงทุนหุ้นสื่อสารรายเล็กเพิ่มหาก “ประมูลจบวันเดียว-CAT ได้คลื่น” ส่วนกรณีตรงข้ามแนะรีบขายหุ้นตัดขาดทุน ฟาก “บล.เอเซีย พลัส” มั่นใจ “ADVANC” ยังโดดเด่นแม้มีความเสี่ยงต้นทุนเพิ่ม

นายพิสุทธิ์ งามวิจิตวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การประมูลคลื่นความถี่ 5G วันที่ 16 ก.พ. มีโอกาสเป็นทั้งปัจจัยหนุนและปัจจัยกดดันหุ้นกลุ่มสื่อสาร โดยประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม คือ ราคาคลื่นที่ผู้ให้บริการประมูลได้ หากสูงจะส่งผลเชิงลบในแง่ต้นทุนการให้บริการที่เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ประเมินว่า การประมูลจะออกมาได้ 2 รูปแบบ คือ 1.ประมูลจบภายในวันที่ 16 ก.พ. และราคาคลื่นอยู่ในระดับไม่แพงมากนัก ก็จะเป็นผลบวกต่อต้นทุนของหุ้นในกลุ่ม โดยหาก บมจ.กสท โทรคมนาคม (CAT) ชนะประมูลก็จะส่งผลบวก เพราะ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) จะสามารถเช่าคลื่นจาก CAT ได้ต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดดุลยภาพของตลาดในการแข่งขัน

ส่วนรูปแบบที่ 2.การประมูลยืดเยื้อถึงวันที่ 17 ก.พ. ซึ่งราคาอาจปรับสูงขึ้นเกินกว่าที่ตลาดคาดเอาไว้ และส่งผลให้ต้นทุนของหุ้นสื่อสารปรับสูงขึ้น และหาก CAT ไม่ได้คลื่น จะส่งผลให้กลุ่มสื่อสารมีความเสี่ยงจะเกิดภาวะการทำสงครามราคาในระยะถัดไป

“หากผลลัพธ์เป็นกรณีแรก แนะนำให้ลงทุนเพิ่มในหุ้นกลุ่มสื่อสารโดยเฉพาะผู้ให้บริการรายเล็ก เช่น TRUE และ DTAC เพราะมีโอกาสที่ราคาจะปรับขึ้นเร็วกว่ารายใหญ่อย่าง ADVANC แต่หากผลลัพธ์ออกมาตรงกันข้าม เราแนะนำให้ขายหุ้นทิ้งเพื่อตัดขาดทุน”

ทั้งนี้ บล.กสิกรไทยให้ราคาเหมาะสม คือ TRUE ที่ 6.58 บาท DTAC ที่ 36.98 บาท และ ADVANC ที่ 243.16 บาท

“การเข้าประมูลคลื่นของหุ้นในกลุ่มสื่อสารมีความเสี่ยงที่อาจจะทำให้ต้องปรับประมาณการกำไรปี 2563 ซึ่งจะต้องรอให้ผลการประมูลออกมาชัดเจนก่อนว่าจะเป็นผลบวกหรือลบต่อหุ้นในกลุ่มนี้”

นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า หลัง กสทช.แจ้งถึงการเข้าประมูลของผู้ให้บริการแต่ละราย ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงการปรับประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียน (บจ.) กลุ่มสื่อสารลง เช่น ADVANC และ TRUE ที่เข้าประมูลคลื่นความถี่ 5G ในย่าน 2,600 MHz มีความเสี่ยงต้นทุนการดำเนินธุรกิจสูงขึ้น ส่วน DTAC ที่ยื่นประมูลคลื่นความถี่ในย่าน 26 GHz เพียงคลื่นเดียวจะส่งผลให้สมดุลคลื่นเสียไป และมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกผู้ให้บริการรายอื่นดูดลูกค้า โดยประเมินว่าความเสี่ยงเหล่านี้จะส่งผลให้ภาพรวมการแข่งขันในอุตสาหกรรมปรับสูงขึ้น

นอกจากนี้ หลัง CAT และ บมจ.ทีโอที (TOT) แจ้งเข้าประมูลคลื่นย่าน 2,600 MHz และ 26 GHz ส่งผลให้เกิดความกังวลต่อภาวการณ์แข่งขันของอุตสาหกรรมในอนาคต เนื่องจากยังประเมินได้ยากว่าผู้ให้บริการทั้ง 2 รายจะประมูลคลื่นได้เท่าไหร่และจะใช้คลื่นในวัตถุประสงค์ใด


“ในภาวะที่ความเสี่ยงต้นทุนและการแข่งขันของกลุ่มสื่อสารมากขึ้น ส่งผลให้ราคาหุ้นในช่วงต้นปีเคลื่อนไหวไม่ค่อยโดดเด่นนัก แต่กลยุทธ์การลงทุนในกลุ่มนี้ เรายังแนะนำซื้อ ADVANC ที่ราคาเหมาะสม 255.00 บาท เนื่องจากเป็นผู้ให้บริการที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงเป็นอันดับ 1 และมีฐานกำไรสูงสุด ดังนั้น แม้จะมีความเสี่ยงต้นทุนสูงขึ้น แต่เชื่อว่า ADVANC จะได้รับผลกระทบค่อนข้างจำกัดเมื่อเทียบกับหุ้นตัวอื่น ๆ”