TIP เบี้ย 6.1 พันล้านโต 25% กำไรรับประกันพุ่ง-กำไรลงทุนฮวบ

“ทิพยประกันภัย” ปลื้มไตรมาส 1/63 เบี้ยรับแตะ 6,103 ล้านบาท ขยายตัว 25% สวนกระแสภาวะเศรษฐกิจซบเซาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 กำไรสุทธิรวม 528 ล้านบาท รับแรงหนุนกำไรจากการรับประกันภัยพุ่งเฉียด 47% แม้กำไรลงทุนลดฮวบเหตุตลาดหุ้นผันผวนหนัก ประกาศเดินหน้าจับมือพันธมิตรพัฒนาระบบดิจิทัลครบวงจร ก้าวเป็นผู้นำด้านดิจิทัลอินชัวร์รันส์ เร่งพัฒนาสินค้าใหม่ขยายฐานลูกค้ารายย่อย

ดร.สมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ TIP เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2563 ว่า บริษัทมีอัตราการขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ที่ดีแม้ต้องเผชิญกับปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยสามารถทำเบี้ยประกันภัยรับรวมได้สูงถึง 6,103.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 1,221.29 ล้านบาท หรือคิดเป็น 25.02% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 4,882.16 ล้านบาท

ทั้งนี้เบี้ยประกันภัยรับรวม ประกอบด้วย เบี้ยประกันอัคคีภัย 366.41 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยทางทะเลและขนส่ง 122.50 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยรถยนต์ 1,327.23 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยเบ็ดเตล็ด 4,287.31 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิในไตรมาสแรกปี 63 บริษัทมีกำไรสุทธิรวม 527.55 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.88 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิรวม 519.91 ล้านบาท และกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.87 บาท
ด้านฐานะการเงิน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563 บริษัทมีสินทรัพย์รวมที่ 44,530.65 ล้านบาท หนี้สินรวม 37,480.23 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 7,050.42 ล้านบาท

ดร.สมพร กล่าวว่า ผลการดำเนินงานไตรมาสแรก อัตราการขยายตัวของบริษัทยังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ชะลอตัว ซึ่งเป็นผลจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเบี้ยประกันภัยรับรวมขยายตัวกว่า 25% แม้กำไรสุทธิจะอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลกำไรจากการลงทุนที่ลดลงเหลือ 129.89 ล้านบาท หรือลดลงกว่า 52.77% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสภาวการณ์ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่ลดลง

“แม้กำไรสุทธิของบริษัทจะใกล้เคียงกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แต่เกิดจากกำไรจากการลงทุนที่ลดลง ขณะที่ความสามารถในการดำเนินธุรกิจด้านประกันภัยกลับโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้กำไรจากการรับประกันภัยหลังหักค่าใช้จ่ายดำเนินงานสูงถึง 519.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนถึง 46.72%” ดร.สมพรกล่าว

สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2563 นั้น ดร.สมพร กล่าวว่า บริษัทยังคงยึดนโยบายการขยายฐานลูกค้าทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้ารายย่อยที่ยังมีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทจะต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รวมถึงออกแบบกรมธรรม์ประกันภัยระยะสั้น และเพิ่มช่องทางการขายให้ครอบคลุมโดยเฉพาะการขายผ่านดิจิทัลเพื่อสนองความต้องการของลูกค้า หลังสถานการณ์ไวรัส COVID-19 จบลง ซึ่งลูกค้าจะมีพฤติกรรมในการซื้อประกันภัยที่เปลี่ยนไปเป็น New Normal และที่ผ่านมาก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีจากการพัฒนาและนำเสนอกรมธรรม์ประกันภัยโรคร้ายแรง จากฝุ่น PM2.5 และ กรมธรรม์ประกันภัยความคุ้มครองไวรัสโควิด-19 เป็นต้น

นอกจากนี้ บริษัทจะยังคงเดินหน้าในการร่วมมือกับพันธมิตรในการพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อที่จะเพิ่มศักยภาพตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านธุรกิจประกันภัยยุคดิจิทัลครบวงจร หรือ Digital Insurance ด้วยการร่วมกับบริษัท เวลธิเทคฟิน จำกัด หรือ “WEALTHI” เวลธ์ติ Startup ที่ให้บริการด้านการเงินในลักษณะ Pico-Finance ทำการขายผลิตภัณฑ์ไมโครอินชัวรันส์ผ่านแอปพลิเคชัน นอกจากนี้ได้มีการร่วมกับโรงพยาบาลในเครือใช้เทคโนโลยีเพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าที่ทำประกันสุขภาพแบบเรียลไทม์ (Telemedicine) และจัดส่งยาให้แก่คนไข้ที่บ้าน โดยไม่ต้องเดินทางมาที่โรงพยาบาล เพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

ล่าสุด ได้จับมือกับ บริษัท ติงค์ บิตท์ จำกัด เปิดตัวแอปพลิเคชัน “TIP COIN BY THINK BIT” เพื่อคืนเบี้ยประกันภัยโควิด ให้กับลูกค้า ผ่าน TIP Coin ครั้งแรกของโลก โดยคืนในรูปแบบเงินดิจิทัล TIP Coin มูลค่าเท่ากับเบี้ยประกันภัยที่ลูกค้าได้เลือกซื้อไว้ สามารถนำ TIP Coin มาแลกซื้อผลิตภัณฑ์ประกันภัยต่างๆของทิพยประกันภัย ตามเงื่อนไขที่บริษัทฯกำหนด หรือแลกรับ Covid-19 Protection Kits (หน้ากากอนามัย , Face Shield และ เจลแอลกอฮอล์ เป็นต้น


“เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ และเพิ่มศักยภาพ เพื่อขยายฐานลูกค้า ซึ่งจะส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานในอนาคต และเป็นการสะท้อนผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหุ้น นอกจากนี้บริษัทฯยังตอบแทนและช่วยเหลือสังคม โดยส่งทีม TIP Smart Assist , หน่วยหนุมานทิพยจิตอาสา และพนักงานจิตอาสา ของทิพยประกันภัย ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลืออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในทุกครั้งที่เกิดวิกฤตการณ์ต่างๆ อีกด้วย” ดร.สมพร กล่าว