ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังจำนวนแท่นขุดเจาะสหรัฐ-แคนาดาลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม เนื่องจากกำลังการผลิตน้ำมันดิบทั่วโลกปรับตัวลดลง และความต้องการใช้น้ำมันมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นจากการคลายมาตรการปิดเมืองในหลายประเทศ โดยนิวยอร์กซิตี้ซึ่งเป็นเมืองที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐฯ จะเริ่มผ่อนคลายข้อจำกัดต่างๆ กับภาคธุรกิจ โดยจะเริ่มเฟสแรกในวันที่ 8 มิ.ย. นี้

+ จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซของสหรัฐฯ และแคนาดาลดลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้กำลังการผลิตน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับลดลง โดยบริษัทเบเกอร์ ฮิวจ์ รายงานแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซในสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 29 พ.ค. 63 ลดลง 17 แท่น สู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 301 แท่น ในขณะที่จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซของแคนาดาลดลง 20 แท่น

– ตลาดยังคงกังวลความสัมพันธ์สหรัฐฯ – จีน หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ แถลงการณ์ในวันที่ 29 พ.ค. 63 ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ จะเริ่มกระบวนการยกเลิกสถานะพิเศษของฮ่องกง เพื่อตอบโต้การตัดสินใจของจีนที่จะบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติในฮ่องกง

ราคาน้ำมันเบนซิน

ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในภูมิภาคยังคงอ่อนตัว อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำมันเบนซินและน้ำมันชนิดเบาคงคลังในสิงคโปร์ปรับตัวลดลงร้อยละ 7.1 เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า

ราคาน้ำมันดีเซล

ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณน้ำมันดีเซลในเอเชียยังอยู่ในระดับสูง เนื่องจากไม่สามารถส่งออกไปยังภูมิภาคอื่นได้ โดยปริมาณน้ำมันดีเซลและน้ำมันอากาศยานคงคลังในสิงคโปร์ปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 5.6 เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า