อานิสงส์คลายล็อกดาวน์ หนุนหุ้นไอพีโอครึ่งปีหลังคึกคัก ! 33 บริษัทพาเหรดต่อคิวเข้าระดมทุน “STGT” ประเดิมสุดแจ่มเทรดวันแรกราคาเปิดพุ่งกว่า 60% แถมราคาปิดยังพุ่งทะลุ 77% รองผู้จัดการ ตลท.แย้มเดือน ก.ย.-ต.ค. จ่อคิวเข้าเทรดอีกเพียบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากรัฐบาลทยอยผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ต่อเนื่อง ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับมาเดินได้ต่อ รวมถึงการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งครึ่งปีหลังนี้มีบริษัทเตรียมขายหุ้น IPO (การเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก) กันหลายราย
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- รักษาการอธิบดี DSI เปิดเงื่อนไข “ขนย้ายกากแคดเมียม” เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่
โดยข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) พบว่า ปัจจุบันมีหุ้น IPO ที่ได้รับการอนุมัติคำขอเข้าจดทะเบียนแล้ว 18 ราย แบ่งเป็น SET 12 ราย และอีก 8 รายจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ mai ส่วนหุ้น IPO ที่อยู่ระหว่างยื่นแบบแสดงข้อมูลเพื่อเสนอขายหุ้นแก่นักลงทุน (ไฟลิ่ง) มี 15 ราย เข้า SET 8 ราย และ mai 7 ราย
ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา บมจ.ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) หรือ STGT ก็ได้เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) หรือ SET เป็นวันแรก โดยพบว่าราคาเปิดการซื้อขาย (open price) อยู่ที่ 55.25% เพิ่มขึ้นกว่า 62.5% จากราคาจองซื้อ IPO ที่ 34.00 บาท และปิดซื้อขายวันแรกทะยานขึ้นไปถึง 60.50 บาทหรือเพิ่มขึ้น 77.94%
นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลท. กล่าวว่า STGT เป็นหุ้นตัวแรกที่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ นับตั้งแต่เกิดวิกฤตโควิด-19 ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยในช่วงปลายเดือน ก.ค.นี้ จะมีบริษัทเข้าระดมทุนอีก 1 ราย คือ บมจ.ซิลิคอน คราฟท์ เทคโนโลยี (SICT) ที่จะเข้า mai ทั้งนี้ ยังมีหลายธุรกิจที่มีแนวโน้มปรับตัวได้ดีหลังโควิด-19 หรือได้ประโยชน์จากการแพร่ระบาด อาทิ ธุรกิจบนช่องทางออนไลน์ ธุรกิจเทคโนโลยี ฯลฯ ซึ่งได้หารือกับตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อเตรียมความพร้อมระดมทุนในช่วงที่เหลือของปีนี้
โดยเฉพาะในเดือน ก.ย. และ ต.ค.นี้ มีบริษัทที่ได้รับอนุมัติไฟลิ่งจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เข้ามาพูดคุย เพื่อกำหนดวันซื้อขายวันแรก (1st day trade) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ก็มีส่วนหนึ่งที่ยังรอประเมินสถานการณ์งบการเงินงวดไตรมาส 2/2563 ส่วนบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยตรง เช่น ท่องเที่ยว เป็นต้น ยังรอติดตามสถานการณ์ในปีหน้า
“การตอบรับของนักลงทุนก็ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยพื้นฐานและอุตสาหกรรมด้วย ยกตัวอย่างหุ้น STGT ที่ประกอบธุรกิจถุงมือยาง ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามในวันที่เข้าซื้อขายวันแรก ซึ่งต้องยอมรับว่าธุรกิจของบริษัทดังกล่าวเข้ากับสถานการณ์โควิด-19 จริง ๆ” นายแมนพงศ์กล่าว
นายแมนพงศ์กล่าวด้วยว่า ประเมินว่ามูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (market cap) ในปีนี้ จะเติบโตขึ้นจากปี 2562 ที่มีมูลค่าการระดมทุนสูงเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน ที่ประมาณ 8.4 หมื่นล้านบาทแน่นอน เนื่องจากมีการระดมทุนของหุ้นขนาดใหญ่อย่าง บมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) ที่มีมูลค่าสูงถึง 2.5-2.7 แสนล้านบาท และล่าสุดหุ้น STGT ก็มีมูลค่าถึง 1.5 หมื่นล้านบาท
นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า บริษัทมีลูกค้าที่เตรียมนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯราว 10 ราย แบ่งเป็น เข้า SET 4-5 ราย และเข้า mai อีก 4-5 ราย โดยปลายปีนี้คาดว่าจะเข้าระดมทุน 2 ราย ซึ่งประกอบธุรกิจบริการวิศวกรรมเฉพาะทางและธุรกิจค้าปลีก
“ในช่วงครึ่งปีที่เหลือ เรารอดูกำไรไตรมาส 2 ของบริษัทที่จะนำเข้าจดทะเบียนก่อนว่าจะออกมาเป็นอย่างไร หากกำไรออกมาไม่ดีนัก ก็อาจพิจารณาเลื่อนขาย IPO เป็นช่วงต้นปีหน้า”นายวิชากล่าว
นายมานพ ธรรมสิริอนันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซิลิคอน คราฟท์ เทคโนโลยี (SICT) กล่าวว่า บริษัทเตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน 100 ล้านหุ้น ในปลายเดือน ก.ค.นี้ เพื่อนำเงินไปขยายธุรกิจ รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการทั่วไป