ขาใหญ่โยกเงิน “ลงทุนทอง” เปิดบัญชีพุ่ง 3 เท่า รับเทรนด์ขาขึ้น

ทองคำ

เทรนด์ราคาทองขาขึ้นปลุกกระแสลงทุนคึก ผู้ค้ารายใหญ่ “ฮั่วเซ่งเฮง” ชี้ปรากฏการณ์เข้าคิวมี 2 กลุ่ม “ขายทองรูปพรรณ-ลงทุนทองแท่ง” ลูกค้าแห่เปิดบัญชีลงทุนเพิ่ม 3 เท่าตัว ขาใหญ่โยกเงินลงทุนรับเทรนด์ขาขึ้นจากพิษโควิด-19 ยืดเยื้อ จับตาวัคซีนจุดเปลี่ยนทำราคาชะลอตัวเตือนนักลงทุนราคาพุ่งสูง-เสี่ยงถูกแรงเทขาย YLG ชี้เทรนด์ลูกค้า TFEX เก็งกำไรขาลงประชาชนแห่ขายดันยอดส่งออก 6 เดือนแตะ 2.5 แสนล้าน เพิ่ม 136%

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากที่ราคาทองคำได้พุ่งทำสถิติสูงสุด 2,075 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ และราคาทองในประเทศ 30,400 บาท(7สิงหาคม2563) อย่างไรก็ดีวันที่11-12 ส.ค.ที่ผ่านมาราคาทองคำก็ผันผวนรุนแรงและปรับลงต่ำกว่า 2,000เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ โดยเมื่อ12ส.ค. ลงมาต่ำสุดที่ 1,865 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ และปรับขึ้นอยู่ที่ 1,929 เหรียญสหรัฐต่ออนซ์ ขณะที่ราคาทองนประเทศก็ผันผวนปรับขึ้น-ลงทั้งวันถึง 42รอบ เบ็ดเสร็จทั้งวันราคาทองลงมา850 บาท ทำให้ทองคำแท่งขายออกล่าสุดอยู่ที่บาทละ 28,400 บาท ส่วนทองรูปพรรณขายออกบาทละ 28,900 บาท

อย่างไรก็ตามนักวิเคราห์และผู้ค้าทองยังมองว่าระยะยาวราคาทองคำยังถือว่าอยู่ในเทรนด์ขาขึ้น ทำให้มีนักลงทุนสนใจเข้ามาลงทุนและเก็งกำไรในทองคำมากขึ้น

“ฮั่วเซ่งเฮง” ชี้ลงทุนทองคึกคัก

นายธนรัชต์ พสวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทฮั่วเซ่งเฮง หนึ่งในผู้ค้าและผู้ส่งออกทองรายใหญ่ของไทยเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า จากที่ราคาทองคำโลกทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ที่ 2,075 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ และราคาทองคำในประเทศ 30,400 บาทต่อบาททองคำ ทำให้ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันราคาทองในประเทศบวกขึ้นมาประมาณ 8,800 บาท หรือ 40% ถือว่าสูงมาก ส่งผลให้ความสนใจในการลงทุนทองคำคึกคักมากขึ้น

จากสถานการณ์ราคาทองขาขึ้นแบบนี้ก็ทำให้เห็นภาพการเข้าคิว แต่ภาพเข้าคิวเกิดขึ้นซึ่งมี 2 อย่าง คือ ถ้าเป็นทองรูปพรรณก็จะนำออกมาขาย เพราะนอกจากราคาทองพุ่งสูงแล้ว ในภาวะเศรษฐกิจไม่ดีก็นำออกมาขาย เก็บเงินสดไว้ แต่ในฝั่งของทองคำแท่ง จะพบว่าวันไหนที่ราคาทองย่อลงจะมีการกลับเข้ามาซื้อ ซึ่งแสดงว่านักลงทุนยังมีมุมมองที่คิดว่าราคาจะไปต่อได้ ก็เข้ามาลงทุน

“แม้ว่าทองคำจะเป็น safe haven ซึ่งตั้งแต่ต้นปีราคาขึ้นมา 40% ก็พูดไม่ได้เต็มปากเต็มคำว่า safe หรือเปล่า แต่เมื่อบวกขึ้นมา 40% ผมก็ว่ามันก็มีความเสี่ยงเหมือนกัน ต้องระวัง”

นายธนรัชต์กล่าวว่า ปีนี้กองทุน ETF ถือว่าเป็นผู้ซื้อทองคำรายใหญ่ของโลก ซื้อติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 โดยมีการถือครองทองคำทั้งสิ้น 3,785 ตัน มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ เรียกว่าราคาทองคำปีนี้ปรับขึ้นมาจากการเข้าถือทองคำของกองทุน ETF ซึ่งสะท้อนว่านักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยในต่างประเทศกังวลเรื่องเศรษฐกิจที่ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องการฟื้นตัว

และหากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงต่อเนื่อง ผลกระทบต่อเศรษฐกิจก็จะหนักขึ้น ทำให้มีเงินไหลเข้าลงทุนในกองทุนทองคำมากขึ้น

ระยะกลางยังเป็น “ขาขึ้น”

นายธนรัชต์กล่าวว่า แม้ว่าราคาทองจะย่อตัวลงบ้าง แต่เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ดี ธนาคารกลางทั่วโลกโดยเฉพาะประเทศยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐ ยังมีมาตรการอัดฉีดเงินจำนวนมากเข้าสู่ระบบเพื่อพยุงภาคธุรกิจและเศรษฐกิจ ขณะที่ปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนก็จุดชนวนเพิ่มเข้าไปอีก

นอกจากนี้ ผลกระทบจากโควิด-19 อาจส่งผลให้ความเสียหายยืดเยื้อหรือผลกระทบกว้างขึ้น ก็ทำให้ราคาทองปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งข่าวก็จะออกมาสลับกันไป แต่เมื่อราคาทองคำปรับย่อลงมา ก็จะมีนักลงทุนกลับเข้าไปซื้อ เพราะมองว่าในระยะกลางปีนี้ หรือปีหน้า ก็ยังเป็นขาขึ้น เพราะมองว่าเศรษฐกิจโลกยังมีปัญหา ประเทศต่าง ๆ ยังจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก็ยังมีออกมาต่อเนื่อง เพราะยังไม่เห็นจุดสิ้นสุดของโควิด-19

“ถ้ามีวัคซีนโควิด-19 ออกมา ก็จะทำให้ความคิดที่ว่าราคาทองจะขึ้นแบบไม่หยุดชะลอลง แต่จะปรับลงมาแรงมั้ย ผมว่าอยู่ที่เรื่องของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งคนก็คาดการณ์กันไปเรื่อย ก็เป็นเรื่องสนุกของทองคำ อย่างไรก็ตาม ถ้ารัฐบาลทั่วโลกยังมีการอัดฉีดเงินเข้ามาพยุงเศรษฐกิจ ก็คิดว่าทองยังได้อานิสงส์ต่อไป ถ้าปีนี้สามารถยื่นที่ระดับ 2,000 เหรียญ ก็จะกลายเป็นฐานใหม่ที่แข็งแรงได้”

ตู้แดง ตจว.ขนทองมาขาย

นายธนรัชต์กล่าวว่า ในช่วงที่ราคาทองขาขึ้นทำให้มีประชาชนแห่นำทองเก็บออกมาขายจำนวนมาก สิ่งสำคัญของร้านทองคือ ต้องเตรียม “เงินสด” สภาพคล่องแต่ละวันที่เพิ่มขึ้น ซึ่งในส่วนของบริษัทไม่มีปัญหา เพราะเงินสดที่อยู่ในบัญชี หรือวงเงินสำรองเพียงพอกับธุรกรรมที่มีในประเทศ ซึ่งในส่วนของร้านทองต่างจังหวัดบางทีไม่มีสภาพคล่องก็อาจจะไม่รับซื้อ ซึ่งก็ทำให้ลูกค้าเสียโอกาส ดังนั้นในช่วงที่ผ่านมาก็จะมีลูกค้าจากต่างจังหวัดเดินทางมาขายที่ร้านด้วย รวมถึงร้านทองต่างจังหวัด ซึ่งเห็นว่าราคาขึ้นก็นำทองคำในร้านมาขายเพื่อทำกำไร

“ปริมาณทองคำที่ประชาชนนำออกมาขายนั้นต้องบอกว่า ช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย. ปริมาณเยอะกว่าช่วงนี้ เพราะว่าปี 2554 ราคาทองอยู่ที่ 1,920 เหรียญ ซึ่งมีคนติดดอยอยู่เยอะ พอราคาพุ่งขึ้นมาพอมีกำไร ประกอบกับช่วงนั้นคนกำลังแพนิกเรื่องการระบาดโควิด-19 ก็แห่เอาทองคำออกมาขายเก็บเงินสดสำรองไว้ แต่พอเห็นว่าราคาทองคำเหมือนจะไปต่อก็เริ่มกลับเข้ามาซื้ออีก วอลุ่มการซื้อขายทองคำคึกคักตั้งแต่เดือน มี.ค. จนถึงตอนนี้”

นักลงทุนเปิดบัญชีเพิ่ม 3 เท่า

นายธนรัชต์กล่าวว่า ในช่วงที่ราคาทองขาขึ้นต่อเนื่องคือ ตั้งแต่ต้นปีเพิ่มขึ้นราว 40% ด้วยผลตอบแทนที่สูง ก็ทำให้มีนักลงทุนสนใจลงทุนทองมากขึ้น จากเดิมที่จะเป็นการลงทุนของคนรุ่นเก่า ปัจจุบันคนรุ่นใหม่ก็สนใจการลงทุนในทองคำมากขึ้น โดยในส่วนของฮั่วเซ่งเฮงก็พบว่ามีลูกค้ามาเปิดบัญชีลงทุน (ทองแท่ง) เพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 3 เท่าตัว ส่วนหนึ่งคิดว่าอาจจะเป็นเพราะผู้ประกอบการรายอื่นที่มีร้านเฉพาะในห้างช่วงล็อกดาวน์เปิดให้บริการไม่ได้ ทำให้ลูกค้าก็อาจจะมาเปิดบัญชีซื้อขายกับทางฮั่วเซ่งเฮงมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีบัญชีซื้อขายทองมากกว่า 5 หมื่นบัญชี

“ช่วงราคาทองคำเป็นขาขึ้น นักลงทุนก็จะแอ็กทีฟเยอะ จากเดิมที่เล่น 1 บาท 5 บาท พอช่วงที่ราคาขึ้นต่อเนื่องทุกวันก็จัดเต็ม มีเท่าไหร่ก็ใส่เข้าไป อารมณ์จะเป็นแบบนั้น ซึ่งจะเป็นกลุ่มที่เล่นเก็งกำไรสั้น ๆ เข้ามาเยอะ”

ขาใหญ่โยกลงทุนทองคำ

นอกจากนี้ก็จะมีนักลงทุนรายใหญ่ที่เป็นทั้งประเภทบุคคลและนิติบุคคล ที่มีการโยกเงินมาลงทุนในทองคำแบบสั่งซื้อทีละ 50 ล้าน-100 ล้าน มีเพิ่มมากขึ้น ตั้งแต่ที่ราคาทองเป็นขาขึ้นช่วงที่มีโควิด-19 เพราะคงคิดว่าตอนนี้จะไปลงทุนซื้อหุ้นก็ไม่รู้จะไปลงทุนที่ไหน ซึ่งลูกค้ารายใหญ่ส่วนใหญ่เมื่อซื้อแล้วจะรับทองคำกลับไปด้วย ไม่ได้ฝากไว้ที่ร้านเหมือนนักลงทุนรายย่อย ซึ่งก็สะท้อนว่ารายใหญ่ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนซื้อเก็บยาว ๆ ไม่ได้ซื้อ ๆ ขาย ๆ

“รวมทั้งสัญญาการซื้อขายทองคำในตลาดล่วงหน้า (TFEX) พบว่า ปริมาณสัญญาซื้อขาย gold online futures คนเทรดเยอะขึ้นเฉลี่ย 6-7 ล้านสัญญาต่อเดือน เพราะวันที่ Bullish ราคาขึ้นก็จะมีคนจัดเต็ม คือจะเล่นเยอะในวันที่ราคามันวิ่งไม่หยุด เพราะเก็งกำไรโดยช่วงปี”63 เฉลี่ยอยู่ที่กว่า 43,000 สัญญาต่อวัน จากปี”62 เฉลี่ยซื้อขายอยู่ที่ 30,000 สัญญาต่อวัน”

นายธนรัชต์กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงราคาทองขาขึ้น ทำให้มีปริมาณทองคำที่ขายเข้ามาที่ร้านในปริมาณมาก ดังนั้นในช่วงนี้ก็จะมีการส่งออกไปโรงหลอมและขายให้กับลูกค้าต่างประเทศทุกวัน ตั้งแต่หลัก 100 กิโลกรัม ไปจนถึง 1 ตัน ซึ่งในช่วงการระบาดของโควิด-19 ก็ทำให้กระบวนการทำงานค่อนข้างลำบาก

ส่งออกทองโตกว่า 136%

ผู้สื่อข่าวประชาชาติธุรกิจรายงานว่า จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์พบว่ามูลค่าส่งออกทองคำในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-มิ.ย. 2563) มูลค่า 246,047.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 136.73% และพบว่า 6 เดือนแรกปีนี้ มีการส่งออกทองคำมากกว่าปี 2562 ทั้งปีมีการส่งออกทองคำ 235,558.18 ล้านบาท

สำหรับ 3 ผู้ส่งออกทองคำรายใหญ่ของประเทศก็คือ ฮั่วเซ่งเฮง, บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด

“แม่ทองสุก” คนเทรดทองคึกคัก

ขณะที่นายณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประธานบริหารกลุ่มบริษัทในเครือ MTS Gold (แม่ทองสุก) เปิดเผยว่า ในช่วงที่ราคาทองคำปรับขึ้น พบว่านักลงทุนเข้ามาซื้อขายทองคำมากขึ้น ทั้งผ่านช่องทางปกติและช่องทางออนไลน์ ในส่วนช่องทางออนไลน์มีปริมาณการซื้อขายประมาณ 500 กิโลกรัม ถึง 1 ตันต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงปกติประมาณ 30% ขณะที่จำนวนบัญชีลูกค้าเพิ่มขึ้นเช่นกันประมาณ 5-10% จากสิ้นปี 2562 มาอยู่ที่ 2,000 กว่าราย

สำหรับสัญญาซื้อขาย gold online futures ปรับเพิ่มขึ้น 30% เฉลี่ย 40,000-50,000 สัญญาต่อวัน และจำนวนบัญชีลูกค้าปรับขึ้น 10-15% จากสิ้นปี 2562 อยู่ประมาณ 1,000 กว่าราย

“ปัจจุบันสัดส่วนลูกค้าที่ซื้อขายทองคำออนไลน์อยู่ที่ประมาณ 60% เทียบกับช่องทางปกติอยู่ที่ 40% โดยการซื้อขายผ่านช่องทางออนไลน์จะเป็นซื้อขายทองคำแท่งเพื่อลงทุน”

YLG ชี้เทรนด์เก็งกำไรขาลง

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่า หลังราคาทองคำกลับมาเป็นขาขึ้นในปีนี้ พบว่าลูกค้าส่วนใหญ่นำทองคำมาขายมากกว่าซื้อ ส่งผลให้ปริมาณซื้อขายเบาบางกว่าช่วงที่ราคาทองคำ gold spot อยู่ในระดับต่ำ

“คาดว่านักลงทุนใช้ความระมัดระวังในการซื้อขายมากขึ้น เนื่องจากมีประสบการณ์ปี 2554 ราคาทองคำปรับขึ้นค่อนข้างแรง แต่ก็ปรับลงรุนแรงเช่นกัน”

ในส่วน gold online futures ปริมาณสัญญาซื้อขายก็เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน แต่วอลุ่มอาจไม่มาก เนื่องจากสัดส่วนลูกค้า TFEX ของบริษัทมีไม่เยอะ แต่ในช่วงที่ราคาทำจุดสูงสุดใหม่แบบนี้ ลูกค้าก็มาเปิดสัญญาระยะสั้น (short) เพื่อเก็งกำไรขาลงมากขึ้น