บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด รายงานราคาทองคำประจำวันที่ 9 ก.ย. 2563
สรุป ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.82 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากระหว่างวันราคาทองคำร่วงลงแรง หลังจากวานนี้ทั้งตลาดหุ้นสหรัฐและน้ำมันต่างก็ปรับตัวลงแรง โดย ดัชนีดาวโจนส์ปิด -2.25%, S&P500 ปิด -2.78% ส่วน Nasdaq ปิด -4.11% นำโดยแรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีจากความวิตกเกี่ยวกับมูลค่าหุ้นที่สูงเกินไป ส่วนความตึงเครียดจีน-สหรัฐทำให้นักลงทุนกลับมาปิดรับความเสี่ยง (Risk off) ขณะที่น้ำมันดิ่งลงอย่างหนักเช่นกัน โดยราคาน้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐปิดลบ 3.01 ดอลลาร์ หรือ -7.6% จากความวิตกว่าการระบาด COVID-19 ที่ยังไม่มีแนวโน้มบรรเทาลงนั้นจะกระทบความต้องการใช้น้ำมัน
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ราคาทองคำร่วงลงตาม จากแรงขายทองเพื่อถือเงินสด และโยกเงินเติมมาร์จิ้น รวมถึงชดเชยผลขาดทุนในสินทรัพย์อื่นๆ นอกจากนี้ ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากการแข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 สัปดาห์ของดัชนีดอลลาร์ ท่ามกลางแรงซื้อดอลลาร์ในฐานะเป็นสกุลเงินปลอดภัยและมีสภาพคล่องสูง พร้อมกันนี้ สกุลเงินดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนเพิ่มจากความเสี่ยงที่อังกฤษอาจถอนตัวออกจาก EU แบบไม่มีข้อตกลง(No-deal Brexit) อีกด้วย
ปัจจัยที่กล่าวมากดดันให้ราคาดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในระหว่างวันที่ 1,906.27 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนจะมีแรงซื้อ Buy the dip เข้ามาหนุนให้ราคาทะยานขึ้นกว่า 30 ดอลลาร์ต่อออนซ์จาก Low ในระหว่างวันจนปิดตลาดในแดนบวกในที่สุด ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง
สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยตําแหน่งงานว่างเปิดใหม่ (JOLTS Job Openings)
คำแนะนำ หากตลอดวันราคาทองคำยังไม่สามารถฝ่าแนวต้านบริเวณ 1,938-1,940 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ราคายังคงแกว่งตัวในกรอบทำให้ยังมีโอกาสที่ราคาทองคำจะปรับย่อลงมาบริเวณแนวรับ 1,911-1,906 ดอลลาร์ต่อออนซ์