บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด รายงานราคาทองคำประจำวันที่ 14 ก.ย. 2563
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
สรุป ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวลดลง 2.61 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบ 1,954.72-1,936.81 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ราคาทองคำจะได้รับแรงหนุนจากความต้องการทองคำ ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง โดยเฉพาะความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐที่ยังคงดำเนินต่อไป
นอกจากนี้ ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนเพิ่มจากสกุลเงินยูโรที่แข็งค่าเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน ขานรับการที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ไม่กังวลต่อการแข็งค่าของยูโร พร้อมมองเศรษฐกิจยูโรโซนดีดตัวอย่างแข็งแกร่ง และคาดว่า GDP จะหดตัวน้อยกว่าคาดในปีนี้ แต่การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำยังคงเป็นไปอย่างจำกัด ส่วนหนึ่งเพราะทองคำได้รับแรงกดดันจากแรงขายทำกำไร ประกอบกับการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์นั้นไม่มากนัก
เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินปอนด์ จากความเสี่ยงที่อังกฤษจะออกจากสหภาพยุโรป (EU) โดยปราศจากข้อตกลง(No-deal Brexit) ขณะที่ “มอร์แกน สแตนลีย์” ได้ปรับเพิ่มแนวโน้มที่จะเกิด No-deal Brexit สู่ระดับ 40% ประกอบกับสกุลเงินดอลลาร์ได้รับแรงหนุนเพิ่มจากการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐที่ออกมาดีดเกินคาดอีกด้วย สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบ เพื่อรอปัจจัยใหม่ๆเข้ามาส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคา ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำลดลง -4.96 ตัน สู่ระดับ 1,248.00 ตัน สำหรับวันนี้ ไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเสรษฐกิจสหรัฐ
คำแนะนำ เน้นเก็งกำไรระยะสั้น สำหรับการเปิดสถานะซื้ออาจพิจารณาบริเวณแนวรับ 1,927-1,906 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากราคาขยับขึ้นควรแบ่งขายทำกำไรบางส่วน หากราคาทองคำไม่ผ่านโซน 1,954-1,966 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าผ่านได้สามารถถือต่อ