บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด รายงานราคาทองคำประจำวันที่ 22 ก.ย. 2563
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- “ทอง” รับข่าวร้ายดันราคาขาขึ้น บาทอ่อนค่าจ่อทะลุ 37 บาท
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
สรุป ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลงถึง 38.79 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ในระหว่างวันราคาดิ่งหลุด 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 เดือน และร่วงลงแตะระดับต่ำสุดบริเวณ 1,881.83 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงกดดันจากปัจจัยต่างๆ
ได้แก่ (1) การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ จากแรงซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย นอกจากนี้สกุลเงินดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนเพิ่มจากการอ่อนค่าของสกุลเงินปอนด์ และยูโร หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในยุโรปเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่เดนมาร์ก กรีซและสเปนได้ประกาศใช้ “ข้อจำกัดใหม่” ส่วนอังกฤษกำลังพิจารณาออกมาตรการล็อกดาวน์รอบสอง สถานการณ์ดังกล่าวหนุนให้ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้น +0.78% แตะระดับสูงสุดรอบเกือบ 6 สัปดาห์บริเวณ 93.777 จนเป็นปัจจัยหลักที่กดดันราคาทองคำ
(2) แรงขายทำกำไรทองคำเพื่อเติม Margin และชดเชยขาดทุนในสินทรัพย์อื่น หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐและตลาดหุ้นยุโรปดิ่งลงอย่างหนัก จากความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากมาตรการล็อกดาวน์รอบสอง และรายงานที่ว่าธนาคารหลายแห่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมโอนเงินที่ผิดกฎหมาย รวมไปถึงความล่าช้าของการออกมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจครั้งใหม่ในสหรัฐ ส่วนราคาน้ำมันปิดร่วงลงกว่า 4% จากรายงานที่ว่าลิเบียอาจจะส่งออกน้ำมันดิบเข้าสู่ตลาดโลกได้มากขึ้น
ปัจจัยที่กล่าวมากดดันให้ราคาทองคำดิ่งลงก่อนจะมีแรงซื้อ Buy the dip เข้ามาหนุนให้ราคากลับปิดตลาดเหนือ 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองเพิ่ม +18.98 ตัน สะท้อนว่านักลงทุนยังไม่ละทิ้งทองคำ
สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่, ดัชนีภาคการผลิตจากเฟดริชมอนด์ และ Testimony ของนายพาวเวลล์ ประธานเฟด
คำแนะนำ ราคามีกำลังซื้อที่ไม่มากหลังจากวานนี้ทิ้งตัวลงแรง จับตาบริเวณโซนแนวต้าน 1,920-1,928 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยังไม่สามารถยืนได้อย่างแข็งแกร่ง การลงทุนในช่วงนี้จึงเน้นไปที่รอจังหวะขายเมื่อราคาดีดตัวไม่ผ่านแนวต้านดังกล่าว