SCB 10X ประกาศลงทุน “MyCloudFulfillment” ผู้นำด้านคลังสินค้าออนไลน์ ผ่านการระดมทุนรอบ Series A มูลค่า 2 ล้านดอลลาร์ พร้อมต่อยอดโซลูชั่นรับตลาดโซเชียลคอมเมิร์ซ หนุนขยายกิจการสู่ระดับภูมิภาค
ดร.อารักษ์ สุธีวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด และผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ล่าสุด เอสซีบี เท็นเอกซ์ หรือ SCB10X ได้ประกาศเข้าไปลงทุนในสตาร์ตอัพรายใหญ่ คือ MyCloudFulfillment ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ตอัพที่ทำเกี่ยวกับบริษัทคลังสินค้าออนไลน์ครบวงจร โดย SCB10X ถือเป็นหนึ่งในผู้ลงทุนที่เข้าไปลงทุนในบริษัทนี้ เนื่องจากบริษัทมีทิศทางการเติบโตอย่างรวดเร็ว
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
ทั้งนี้ นอกจากการสนับสนุนผ่านการลงทุนในการระดมทุนรอบ Series A แล้ว ทั้งสองบริษัทยังมีแผนในการพัฒนาโซลูชันต่างๆ ร่วมกัน เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ social commerce ในอนาคต เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ประกอบการรวมถึงลูกค้าอีกด้วย
เนื่องจากช่วงโควิด-19 ที่เริ่มเห็นการเปลี่ยนผ่านของผู้บริโภคมุ่งไปสู่ดิจิทัลมากขึ้น ทำให้การซื้อสินค้าผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซเติบโตได้ก้าวกระโดด ส่งผลให้ความต้องการด้านบริการคลังสินค้าออนไลน์เป็นที่ต้องการมากขึ้น ตามการขยายตัวของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และโลจิสติกส์ที่มีโอกาสเติบโตสูงขึ้นได้อีกในอนาคต
“สำหรับบทบาทของ SCB10X มุ่งคิดและทำในส่ิงที่เราไม่เคยทำมาก่อน ผ่านการลงทุนด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ที่สามารถสร้างการเติบโตให้เราได้ก้าวกระโดด และภารกิจเราต้องการส่งเสริมและผลักดันสตาร์ตอัพไทยให้มีการเติบโตมากขึ้น ปัจจุบันไทยมีสตาร์ตอัพราว 1.5 พันราย แม้ว่าอีโคซิสเต็มของสตาร์ตอัพจะอยู่ในทิศทางที่เติบโตแต่ยังมีขนาดเล็กกว่าเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร และอินโดนีเซีย แต่เราเชื่อว่าอนาคตสตาร์ตอัพไทยยังเติบโตได้อีก หากได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุน และนโยบาย Thailand 4.0 ของภาครัฐ”
นายนิธิ สัจจทิพวรรณ กรรมการผู้จัดการ และผู้ร่วมก่อตั้ง MyCloudFulfillment บริษัท อี-เอ็มพาว เวอร์เมนท์ กล่าวว่า ตลาดอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถือเป็นหนึ่งในตลาดที่เติบโตสงูถึง 26% โดยตลาดที่มีศักยภาพสูงอันดับหนึ่งได้แก่ อินโดนีเซีย มีอัตราการใช้จ่ายผ่านอีคอมเมิร์ซต่อผู้ใช้ (ARPU) อยู่ที่ 219 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 6,856 บาทต่อคนต่อปี รองลงมาคือประเทศไทย อยู่ที่ 215.67 เหรียญสหรัฐฯ หรือ ประมาณ 6,752 บาทต่อคนต่อปี แต่อัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของไทยยังต่ำกว่าอินโดนีเซียอยู่มาก สะท้อนให้เห็นถึงโอกาสในการเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซของไทยที่ยังมีอีกมหาศาล
ดังนั้น การระดมทุนของ MyCloudFulfillment รอบ Series A มูลค่า 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ได้รับความสนใจจากผู้ลงทุน ได้แก่ ECG, Gobi Partners, NVest Venture และSCB10X ในครั้งนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นจากนักลงทุนที่เล็งเห็นถึงศักยภาพในการเติบโตของบริษัท
โดยบริษัทมีเป้าหมายที่จะนำเงินทุนไปพัฒนาระบบการจัดการด้านข้อมูลให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซสามารถบริหารจัดการสินค้า ขายสินค้าได้ง่ายขึ้น นำดาต้าที่มีมาใช้ในการทำ predictive analytics ได้มากขึ้น เพื่อสร้างการเติบโตให้ธุรกิจได้อย่างยั่งยืน รวมถึงการพัฒนาศักยภาพด้านบริการแก่ลูกค้า รวมถึงขยายธุรกิจเพื่อรองรับการเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซ และโลจิสติกส์ในประเทศและเตรียมพร้อมขยายตลาดสู่ระดับภูมิภาคอาเซียนต่อไป
