WHART เคาะราคาเพิ่มทุน 12.30 บาท ดันสินทรัพย์เติบโต 4.2 หมื่นล้าน

ภาพประกอบข่าว WHART

WHART เคาะราคาขายสุดท้าย 12.30 บาท หนุนผลตอบแทนให้ผู้ถือหน่วยปี’64 เพิ่มขึ้นเป็น 0.79 บาท/หน่วย ระบุหลังเพิ่มทุนสำเร็จขนาดทรัพย์สินรวมเพิ่มเป็น 42,254 ล้านบาท ตอกย้ำการเป็นกองทรัสต์ประเภทอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ

นายเศกธัช จงศิริวัฒน์ ผู้บริหารงานวาณิชธนกิจ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายหน่วย ทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (WHART) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่กองทรัสต์ WHART ได้ทำการเปิดจองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มทุน จำนวนไม่เกิน 255.2 ล้านหน่วย พบว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากทั้งผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิม นักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนอื่นๆ โดยได้กำหนดราคาเสนอขายสุดท้ายที่ราคาหน่วยละ 12.30 บาท ซึ่งผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมได้สิทธิจองซื้อหน่วยทรัสต์ในอัตราส่วน 1 หน่วยทรัสต์เดิมต่อ 0.0722 หน่วยทรัสต์ที่ออกและเสนอขายเพิ่มเติม

ทั้งนี้ เปิดให้ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมจองซื้อ ระหว่างวันที่ 2-6 และ 9-12 พฤศจิกายน 2563 และสำหรับประชาชนทั่วไปเปิดให้จองซื้อ ระหว่างวันที่ 2-6 และ 9-13 พฤศจิกายน 2563 ในราคา 13.80 บาท/หน่วย ซึ่งทางกองทรัสต์จะทำการคืนเงินส่วนต่างให้กับผู้ลงทุนที่จองซื้อเป็นลำดับต่อไป

โดยการเสนอขายหน่วยทรัสต์ WHART ในครั้งนี้ จะได้รับความสนใจจากนักลงทุน ทั้งที่เป็นผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิม และประชาชนทั่วไป เนื่องจากความโดดเด่นของกองทรัสต์ ความมั่นคง และการรักษาความสามารถในการจ่ายผลตอบแทนกับผู้ถือหน่วยทรัสต์อย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญยังเป็นผู้นำกองทรัสต์ ที่มีทรัพย์สินในทำเลศักยภาพอยู่ในจุดศูนย์กลางของการขนส่งในประเทศไทย บนถนนบางนา-ตราด และพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)

นอกจากนี้ ยังเน้นลงทุนในทรัพย์สินประเภทโครงการศูนย์กระจายสินค้า คลังสินค้าและโรงงาน Built-to-Suit ที่มีรายได้มั่นคง ดังนั้นจึงเชื่อว่าด้วยมูลค่าทรัพย์สินของกองทรัสต์ฯ และผู้บริหารสินทรัพย์อย่าง WHA Group จะเป็นเครื่องตอกย้ำความน่าสนใจและความเชื่อมั่นในผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยจะได้รับจากการลงทุนในกองทรัสต์ WHART ในครั้งนี้

ด้าน นายอนุวัฒน์ จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ เรียล เอสเตท แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ WHART กล่าวว่า ภายหลังการเพิ่มทุนครั้งที่ 5 ของกองทรัสต์ WHART ในครั้งนี้ มูลค่าทรัพย์สินรวมของกองทรัสต์ WHART จะเพิ่มขึ้นเป็น 42,254.16 ล้านบาท จากเดิมที่มีมูลค่าทรัพย์สินรวม 39,020.19 ล้านบาท ส่งผลให้กองทรัสต์ WHART สามารถรักษาความเป็นผู้นำของกองทรัสต์ ประเภทศูนย์กระจายสินค้า คลังสินค้าและโรงงาน และยังช่วยสร้างผลตอบแทน (Distribution) ที่มั่นคงให้กับผู้ถือหน่วยทรัสต์อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอในระยะยาว

ส่วนอัตราประโยชน์ตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยทรัสต์จะได้รับตามประมาณการประโยชน์ตอบแทนต่อหน่วย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 จากงบกำไรขาดทุนและการจ่ายประโยชน์ตอบแทนตามสถานการณ์สมมติ สอบทานโดยผู้สอบบัญชีอยู่ที่ 0.79 บาทต่อหน่วย ทั้งนี้จากสถิติที่ผ่านมากองทรัสต์ WHART มีการจ่ายผลตอบแทนในอัตราที่ไม่น้อยกว่าเดิมมาโดยตลอด

“การเพิ่มทุนครั้งนี้ คาดว่าจะสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวให้กับผู้ถือหน่วยทรัสต์อย่างมีเสถียรภาพ เนื่องด้วยสัญญาเช่าส่วนใหญ่เป็นสัญญาระยะยาว อีกทั้ง profile ของผู้เช่าพื้นที่ของกองทรัสต์เป็นผู้เช่าที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีความมั่นคง และมาจากหลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นการลดความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของกลุ่มอุตสาหกรรมของผู้เช่าได้เป็นอย่างดี” นายอนุวัฒน์ กล่าว

สำหรับทรัพย์สิน 3 โครงการที่กองทรัสต์ WHART จะเข้าลงทุนในครั้งนี้ ประกอบด้วย

1. โครงการ WHA Mega Logistics Center (แหลมฉบัง 1) โดยลงทุนในกรรมสิทธิ์ที่ดิน และกรรมสิทธิ์ในอาคารคลังสินค้า โรงงาน และสำนักงาน รวมถึงสิ่งปลูกสร้างและทรัพย์สินอื่นๆ ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี

2. โครงการ WHA Mega Logistics Center (แหลมฉบัง 2) โดยลงทุนในสิทธิการแบ่งเช่าในที่ดิน และกรรมสิทธิ์ในอาคารคลังสินค้าและสำนักงาน รวมถึงสิ่งปลูกสร้างและทรัพย์สินอื่นๆ ในโครงการ WHA Mega Logistics Center (แหลมฉบัง 2) ตั้งอยู่ที่ตำบลบึง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี

และ 3. โครงการ WHA KPN Mega Logistics Center (ถนนบางนา-ตราด กม.23 เฟส 3) โดยลงทุนในสิทธิการแบ่งเช่าช่วงในที่ดิน และสิทธิการเช่าในอาคารคลังสินค้า และสำนักงาน ตั้งอยู่ที่ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ  ซึ่งทั้ง 3 โครงการ ปัจจุบันมีผู้เช่าระดับชั้นนำที่เข้าทำสัญญาแล้ว เช่น บริษัท ฮอนด้า โลจิสติกส์, ซัมซุง, Shopee,  DKSH และวอลโว่ คาร์  เป็นต้น