สภาพัฒน์ ชี้เศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวช้าๆ หลังผ่านจุดต่ำสุดไตรมาส 2

สศช. ยันเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวช้าๆ หลังผ่านจุดต่ำสุดไตรมาส 2 ติดลบ 12.2% ชี้ยังต้องเตรียมมาตรการดูแลภาคท่องเที่ยวเพิ่ม โดยเฉพาะรถตู้นำเที่ยว แนะจับตาการเลือกตั้งสหรัฐ อาจกระทบเศรษฐกิจไทยปี’64

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่เกิดโควิด-19 มา จุดต่ำสุดของเศรษฐกิจอยู่ที่ไตรมาส 2 ของปี 2563 ซึ่งจีดีพีติดลบ -12.2% ใกล้เคียงกับปี 2540 เนื่องจากตอนนั้นทุกอย่างถูกแช่แข็งหมด รัฐบาลตัดสินใจล็อกดาวน์ประเทศ และขณะเดียวกันต่างประเทศก็ล็อกดาวน์ด้วย ซึ่งตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลายส่วนถูกกระทบโดยเฉพาะการส่งออก แต่ตั้งแต่เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา แนวโน้มเริ่มดีขึ้น เศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวช้าๆ

“เราเริ่มเห็นสัญญาณเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวช้าๆ ดัชนีภาคเอกชนเริ่มดีขึ้น โดยในเดือน พ.ค. ติดลบ -18.3% เริ่มดีขึ้นในเดือนมิ.ย. –10% และในเดือนก.ค. -7.5%  ขณะเดียวกันดัชนีราคาสินค้าเกษตรก็ดีขึ้น แสดงให้เห็นว่าเกษตรกรมีรายได้เพิ่ม ยืนยันว่าเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวอย่างช้าๆ แม้ยังติดลบอยู่ แต่ก็ติดลบน้อยลง”

นายดนุชา กล่าวว่า หากเหตุการณ์ในประเทศเป็นเหมือนปัจจุบันนี้ ไม่มีการระบาดของไวรัสโควิด รอบ 2 เศรษฐกิจจะค่อยๆ ขยับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ดี สิ่งที่จะต้องระมัดระวังคือวิกฤตรอบนี้มีความไม่แน่นอนสูง กว่าการจะกระจายวัคซีนจะสามารถทำได้ก็อาจจะต้องใช้เวลา และภาคการท่องเที่ยวยังหยุดชะงักอยู่ โดยประเทศไทยพึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเมื่อประสบวิกฤตเช่นนี้ จึงได้รับผลกระทบรุนแรง ฉะนั้น จึงต้องใช้นโยบายคนไทยเที่ยวกันเอง และมาตรการต่างๆ เข้ามาช่วย

อย่างไรก็ดี ยังมีกิจกรรมการท่องเที่ยวที่ต้องดูแลเพิ่มเติม เช่น รถตู้นำเที่ยว จะต้องมาพิจารณารายละเอียดว่าจะมีมาตรการอะไรบ้างเข้ามาช่วย โดยสถานการณ์เศรษฐกิจไทยจะดีขึ้นอย่างไร ต้องรอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาส 3 และสิ้นปีนี้

ทั้งนี้ จะต้องติดตามการเลือกตั้งของสหรัฐอเมริกาที่เกิดขึ้น ซึ่งมาตรการบางส่วนอาจจะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยในปี 2564 อย่างไรก็ดี ยืนยันว่า ปีหน้าเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้นอย่างช้าๆ