กูรูประเมินแนวโน้ม SET Index สัปดาห์หน้า ลุ้นปรับขึ้นแตะ 1,420 จุด จับตาปัจจัยสำคัญตัวเลขส่งออก รวมถึงสถานการณ์โควิด-19 ‘บล.ฟิลลิปฯ’ หวั่นการเมืองในประเทศกลับมากดดัน
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ SET (SET Index) สัปดาห์ที่ผ่านมา (16-20 พ.ย.63) ปรับตัวขึ้นตามบรรยากาศตลาดต่างประเทศ โดย SET Index ปิดที่ระดับ 1,389.34 จุด เพิ่มขึ้น 18% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 81,685.12 ล้านบาท ลดลง 25.88% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ mai (mai Index) เพิ่มขึ้น 1.48% จากสัปดาห์ก่อน มาปิดที่ 320.99 จุด
- ด่วน ! วอยซ์ ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
ทั้งนี้ คาดว่าหุ้นไทยขยับขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ขานรับตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/63 ของไทย ซึ่งออกมาดีกว่าที่คาด ก่อนจะย่อตัวลงเล็กน้อยในเวลาต่อมาท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์การเมืองในประเทศ
อย่างไรก็ดี หุ้นไทยดีดตัวขึ้นอีกครั้งตั้งแต่ช่วงกลางสัปดาห์ โดยมีแรงหนุนจากความคาดหวังเชิงบวกต่อการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 การคงอันดับความน่าเชื่อถือของไทยโดย S&P Global Ratings รวมถึงมุมมองที่ว่ามาตรการดูแลค่าเงินบาทของทางการไม่ได้มีความเข้มงวดมากนัก ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังมีสถานะซื้อสุทธิหุ้นไทยในสัปดาห์นี้
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (23-27 พ.ย.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,375 และ 1,360 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,400 และ 1,420 จุดตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขส่งออกเดือนต.ค. ของไทย ประเด็นทางการเมืองของไทย สถานการณ์โควิด-19
รวมถึงประเด็นการเมืองสหรัฐฯ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/63 บันทึกการประชุมเฟด ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคลเดือนต.ค. รวมถึงดัชนี PMI Composite เดือนพ.ย. (เบื้องต้น) ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ดัชนี PMI Composite เดือนพ.ย. (เบื้องต้น) ของยูโรโซน และกำไรบริษัทภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค. ของจีน
ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ฝ่ายวิจัยคาดว่าสัปดาห์หน้า SET Index จะแกว่งออกข้างในกรอบระหว่าง 1,350-1,410 จุด แต่มีโอกาสพักฐานจากปัจจัยการเมืองที่อาจกลับมากดดัน ดังนั้น จึงแนะนำลงทุนในกลุ่มที่อิงกับปัจจัยต่างประเทศ (GLobal Play) หลังจากที่ปัจจัยวัคซีนคืบหน้าต่อเนื่อง ได้แก่
COM7 คาดว่าจะได้ประโยชร์จากการเปิดขาย iPhone 12 ควบคู่กับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ “ช้อปดีมีคืน” และคาดว่าจะถูกเข้าคำนวณในดัชนี SET50 รอบเดือน ม.ค.-มิ.ย.64 ถัดมาแนะนำ PSL เนื่องจากดัชนีค่าระวางเรือ (BDI) พลิกกลับมาขึ้นอีกครั้ง รวมถึงบริษัทฯ ได้ประโยชน์จาก Global Play ที่การค้าโลกจะกลับมาดีขึ้นในยุคประธานาธิบดีไบเดน
