เช็กเงื่อนไข ก่อนเปิดลงทะเบียน (16 ธ.ค.) คนละครึ่ง เฟส 2 รับสิทธิ์ 3,500 บาท

เช็กเงื่อนไข ก่อนเปิดลงทะเบียน 16 ธ.ค. “คนละครึ่ง เฟส 2 รับสิทธิ์ใช้เงิน 3,500 บาท

ภายหลังจาก 2 ธ.ค. ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) ครั้งที่ 6/2563 มีมติเห็นชอบ เพิ่มวงเงิน โครงการคนละครึ่ง ในระยะที่ 2 “คนละครึ่งเฟส 2” มีรูปแบบการดำเนินการเช่นเดียวกับเฟส 1 ที่ภาครัฐจะร่วมจ่ายร้อยละ 50 แต่ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน

นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวว่า ที่ประชุม ศบศ. เห็นชอบมาตรการคนละครึ่ง ระยะที่สอง แล้ว อย่างไรก็ตามยังต้องเข้าสู่การพิจารณาของคณะอนุกรรมการพิจารณาการใช้จ่ายเงินกู้ ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีในการพิจารณาอนุมัติหลักการเห็นชอบต่อไป

เงื่อนไขการรับสิทธิ์

  • ผู้เข้าร่วมโครงการในเฟส 1 ที่ต้องการต่อสิทธิ์ ทางรัฐบาลจะต่อให้โดยอัตโนมัติ มีการเพิ่มปุ่มบนเว็บไซต์คนละครึ่ง หรือส่งข้อความ ให้ผู้ลงทะเบียนเฟส 1 ยืนยันว่าจะเข้าร่วมมาตรการต่อในระยะที่สองหรือไม่ โดยรัฐเงินเพิ่มอีก 500 บาท รวมเป็น 3,500 บาท
  • ผู้ที่ถูกตัดสิทธิจากโครงการคนละครึ่งในเฟส 1 (เนื่องจากไม่ได้ใช้จ่ายภายใต้โครงการภายในวันที่กำหนดไว้ หลังจากที่ลงทะเบียนรับสิทธิไปแล้ว) จะสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเฟส 2 ได้
  • เริ่มลงทะเบียน วันที่ 16 ธันวาคม 2563  อีก 5 ล้านสิทธิ์
  • ผู้เข้าร่วมโครงการในเฟสที่ 2 จะได้รับวงเงินการใช้สิทธิ์จำนวน 3,500 บาท
  • มีกำหนดการดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 มีนาคม 2564

ระยะเวลาในการใช้สิทธิ์

  • เฟส 1 จะมีระยะเวลาในการใช้จ่าย 23 ตุลาคม 2563 – 31 มีนาคม 2564
  • เฟส 2 จะมีระยะเวลาในการใช้จ่าย 1 มกราคม – 31 มีนาคม 2564

ทั้งนี้ รายละเอียดการดำเนินการของโครงการคนละครึ่งจะต้องนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป

ความคืบหน้าล่าสุดของโครงการคนละครึ่ง ณ วันที่ 2 ธันวาคม 2563 เวลา 12.00 น. มีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 8.9 แสนร้านค้า และมีผู้ใช้สิทธิ์แล้วจำนวน 9,526,815 คน โดยมียอดการใช้จ่ายสะสม 33,754 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 17,236 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 16,518 ล้านบาท ยอดใช้จ่ายเฉลี่ย 181 บาทต่อครั้ง

ส่วนโดยจังหวัดที่มีการใช้จ่ายสะสมมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สงขลา, นครศรีธรรมราช, ชลบุรี และเชียงใหม่ ตามลำดับ สำหรับผู้ประกอบการร้านค้ายังคงสมัครเข้าร่วมโครงการได้อย่างต่อเนื่อง.