ราคาหุ้น TU ปรับขึ้น 2.88% มายืนที่ 14.30 บาท รับข่าวเชิงบวกหลัง ‘ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป’ แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ระงับข้อพิพาทคดีผูกขาดทางการค้าของบริษัทย่อย ‘Tri-Union’ ในสหรัฐสำเร็จ
12 ม.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า บริษัท Tri-Union Seafood LLC หรือ Tri-Union บริษัทย่อยผู้ประกอบธุรกิจอาหารทะเลบรรจุภาชนะผนึกในประเทศสหรัฐอเมริกา ภายใต้แบรนด์ “Chicken of the Sea” สามารถเจรจาเพื่อตกลงระงับข้อพิพาทเพื่อยุติคดีผูกขาดทางการค้าทั้งหมดได้สำเร็จแล้ว
- สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ซีอีโอ “เอไอเอส” สละโสดในวัย 62 ปี
- กองทุนประกันวินาศภัยถังแตก แจ้งชะลอจ่ายคืนหนี้ตั้งแต่ มี.ค.2567
- เปิดไทม์ไลน์ แจกเงิน 10,000 ลงทะเบียนเมื่อไหร่ เงื่อนไขเป็นยังไง
โดยปัจจุบันเหลือเพียงการดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายเพื่อให้ศาลอนุมัติตามข้อตกลงที่คู่ความได้เจรจายุติแล้วเท่านั้น และการระงับข้อพิพาทในคดีผูกขาดทางการค้าดังกล่าว ถือเป็นจุดสิ้นสุดของคดีผูกขาดทางการค้าทั้งหมดของบริษัทฯ และ Tri-Union ในสหรัฐอเมริกา
ในส่วนของการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น TU วันนี้ พบว่าปรับขึ้นประมาณ 2.88% มาอยู่ที่ 14.30 บาท และยังมีแนวโน้มปรับขึ้นต่อเนื่อง
ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุว่า TU แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าบริษัท Tri-Union Seafood ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ TU ได้บรรลุข้อตกลงเพื่อระงับข้อพิพาทคดีผูกขาดทางการค้าในสหรัฐทั้งหมดได้สำเร็จแล้ว ซึ่งถือเป็นจุดสิ้นสุดของคดีผูกขาดทางการค้าทั้งหมดในสหรัฐ และจากการสอบถามทางบริษัทฯ ถึงประเด็นดังกล่าว ทางบริษัทแจ้งว่าจะไม่มีการรับรู้ความเสียหายใดๆ เกิดขึ้นอีกจากการสิ้นสุดดคีดังกล่าวเพิ่มเติมแล้ว
ทั้งนี้ ทางฝ่ายมองว่าเป็นข่าวดีต่อ TU ซึ่งจะได้คลายความกังวลกับปัญหาดังกล่าวทั้งในเรื่องคดีและการตั้งสำรอง รวมถึงค่าใช้จ่ายพิเศษต่างๆ ที่เกิดขึ้น
ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า TU แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ หลังได้เจรจายอมความกับลูกค้าในสหรัฐเสร็จเรียบร้อยแล้ว จากกรณีถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในการแข่งขันทางการค้าอย่างไม่เป็นธรรมในปี 2560 และได้มีการรับรู้ค่าใช้จ่ายในงบการเงิน 2,829 ล้านบาทไปหมดแล้วในไตรมาส 2/61 และไตรมาส 2/62
ปัจจุบันเหลือเพียงการดำเนินขั้นตอนทางกฎหมายเพื่อให้ศาลอนุมัติตามข้อตกลงที่คู่ความได้เจรจายุติกันแล้วเท่านั้น และคาดว่าจะไม่มีการบันทึกค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติมอีกจากคดีดังกล่าว