กลุ่มเจมาร์ท เปิดแผนธุรกิจบริหารทรัพย์รอขาย เป้าปีนี้ 500 หลัง มูลค่า 2 พันล้าน

กลุ่มเจมาร์ท ผนึกบริษัทในเครือ เปิดฉากแผนธุรกิจบริหารทรัพย์รอการขาย โฟกัสทำเลเด่น ราคาแข่งขันได้ มีคุณภาพ คาดเป้าปีนี้ 500 หลัง มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท ตอบสนองดีมานด์ แย้มแผนกลยุทธ์เข้าสู่ธุรกิจประเมินราคาอสังหาฯ สร้างอีโคซิสเต็มการบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ พร้อมปล่อยสินเชื่อ

นายปิยะ พงษ์อัชฌา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) (JMART) เปิดเผยว่า กลุ่มเจมาร์ทมีความแข็งแกร่งในธุรกิจค้าปลีก การเงิน และเทคโนโลยี มีจุดเด่นในการผนึกกำลังร่วมกันเพื่อสร้าง Synergy ให้ธุรกิจมีการเติบโตได้อย่างโดดเด่น

โดยเฉพาะ บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) (JMT) ดำเนินธุรกิจหลักในการซื้อหนี้ทั้งที่มีหลักประกัน (NPA) และไม่มีหลักประกัน (NPL) เข้ามาบริหาร ปัจจุบันมีมูลค่าพอร์ตรวมกันกว่า 2 แสนล้านบาท จึงมองเห็นโอกาสในการเติบโตจากการผนึกกำลังร่วมกันกับบริษัทในเครือ เพื่อเพิ่มยอดขายทรัพย์สินรอการขายในมือออกไป

โดยมี บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) (J) เป็นตัวแทนขาย และให้บริการปรับปรุง ดูแลหลักทรัพย์ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม สำหรับ บริษัท เคบี เจ แคปปิตอล จำกัด  (KB J Capital) จะเข้ามาสนับสนุนทางด้านสินเชื่อให้ลูกค้า และ บริษัท เจมาร์ท โมบาย จำกัด (JMB) เพิ่มช่องทางการขาย และบริหารสื่อทางการตลาด มั่นใจ เป็นจุดเริ่มต้นการผนึกกำลัง เพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้และกำไรได้อย่างมีนัยสำคัญในอนาคต และแทบไม่มีต้นทุนเพิ่ม

อย่างไรก็ดี JMT ได้ดำเนินการเรื่องการต่อ Ecosystem มาเป็นระยะเวลานานแล้ว รุกขายบ้าน NPA และแก้ปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) ไปแล้วกว่า 100 หลัง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้กำไรของ JMT เติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่า กลุ่มเจมาร์ท มีพันธมิตรอย่างครบครัน ไม่ต้องรอเจรจากับพันธมิตรใดๆ และรายได้ กำไร ก็อยู่ในกลุ่มเจมาร์ท

ขณะเดียวกัน บริษัทมีแผนจะใช้เทคโนโลยี เข้ามาพัฒนา e-Auction (อีอ๊อกชั่น) รุกการประมูลราคาและการขายอสังหาริมทรัพย์มือสองผ่านระบบออนไลน์  จะเห็นได้ว่า กลุ่มบริษัทมีการต่อจิ๊กซอว์เพิ่มขึ้นเพื่อขยายโอกาสต่อไป นี่จึงเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของ NPA Ecosystem และเชื่อมั่นว่ามีความต้องการจากลูกค้ากลุ่มใหญ่จำนวนมาก

นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JMT ผู้นำในธุรกิจหนี้ด้อยคุณภาพภาคเอกชนรายใหญ่ของประเทศ เปิดเผยถึง การต่อยอดในธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ด้วยกลยุทธ์การทำงานร่วมกันแบบ Synergy เพื่อสร้างโอกาสในการขายอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มทรัพย์สินรอการขาย (NPA) ที่ JMT ประมูลซื้อเข้ามาบริหารอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา

ทั้งประเภท บ้าน คอนโด และอาคารพาณิชย์ ปัจจุบันพอร์ต NPA มีอยู่ในมือแล้วประมาณ 200 หลัง และคาดว่าจะมี 500 หลัง ภายในปีนี้ รวมมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท  ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้จำหน่าย NPA ออกไปแล้ว และทำการปรับโครงสร้างให้กับลูกค้า ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผลประกอบการของ JMT เติบโตอย่างต่อเนื่อง

นายสุพจน์ สิริกุลภัสสร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร J ผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจพื้นที่เช่าและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และเป็นนักพัฒนาและบริหารศูนย์การค้าแบบชุมชน เปิดเผยถึง การต่อยอดธุรกิจ สร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ สำหรับการเป็น ตัวแทนขาย (Property Agent) รวมทั้งเป็นผู้รับเหมาการปรับปรุงบ้านให้กับลูกค้า เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินทรัพย์

และทำให้ลูกค้าสบายใจในการปรับปรุงบ้านกับผู้รับเหมาที่ใกล้ชิด ด้วยความเชี่ยวชาญของบริษัทฯ ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มาแล้วหลากหลายรูปแบบ รองรับความต้องการจากลูกค้าที่ใช้อยู่อาศัย สำหรับคนที่มีกำลังซื้อจำกัด นอกจากนี้ ยังมีแผนเข้าซื้อทรัพย์สินรอการขาย (NPA) ในทำเลที่มีศักยภาพ แล้วนำมาพัฒนาเพื่อขายทำกำไรต่อ หรือให้เช่าต่อ เพื่อสร้างกระแสเงินสดที่ดีให้แก่บริษัทฯ ในอนาคต

นายวอนซอค จ็อง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท KB J Capital ภายใต้ บริษัท KB Kookmin Card ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการเงินและบัตรเครดิตจากเกาหลีใต้ กล่าวว่า ที่ได้ร่วมลงทุนกับกลุ่ม JMART มองเห็นโอกาสสำหรับสินเชื่อให้แก่ลูกค้าผ่านช่องทาง Synergy ในครั้งนี้ เพื่อตอกย้ำแผนรุกตลาด Personal Loan เต็มกำลัง สนับสนุนโอกาสการขยายพอร์ต และการให้บริการภายใต้ NPA Ecosystem ของกลุ่มบริษัทได้อย่างครบวงจรยิ่งขึ้น

นายนราธิป วิรุฬห์ชาตะพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JMB กล่าวว่า บริษัทมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจค้าปลีก และการขาย จะเข้ามาเติมเต็มช่องทางสำหรับการบริหารสื่อทางการตลาดให้ NPA Ecosystem เพื่อเพิ่มการมองเห็นของลูกค้าในทำเลที่เป็นโอกาส ลูกค้าจะมองเห็นอสังหาริมทรัพย์ฯ ที่มีศักยภาพมากขึ้น และคาดจะเพิ่มช่องทางการเสนอขายทรัพย์สินรอการขาย (NPA) ผ่านสาขาของเจมาร์ทอีกช่องทางหนึ่งในอนาคต นอกจากนี้ ยังมองถึงโอกาสขอธุรกิจสมาร์ทโฮม เพิ่มเติมอีกด้วย