ประยุทธ์ ถกด่วน รมว.คลัง- 3 รองนายกฯ เติมเงินยื้อสถานะ “การบินไทย”

คลังถกแผนการบินไทย

นายกรัฐมนตรี เรียก รมว. คลัง 3 รองนายกฯ ถกด่วน หาช่องใส่เงินอุ้มการบินไทย

วันที่ 23 เมษายน 2564 แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เินทางไปยังตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเข้าร่วมประชุมหาแนวทางแก้ไขปัญหา บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุม

ในการประะชุมครั้งนี้ มีรองนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมด้วย 3 คน อาทิ  นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ด้านกฏหมาย นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ และ รมว.พลังงาน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับกระทรวงคมนาคมและ รมว.สาธารณสุข ส่วนนาย ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมประชุมผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์

แหล่งข่าวระดับสูงจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า การแก้ปัญหาการบินไทย เนื่องจากเครื่องมือและมาตรการบางอย่างในการที่รัฐบาลจะช่วยเหลือกจการการบินไทยยังมีข้อจำกัดในแง่กฎหมาย และข้อจำกัดด้านระเบียบ ที่ระบุไว้ว่าการบินไทยจะต้องมีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจ ซึ่งที่ประชุมอาจจะมีการพิจารณาเรื่องนี้

“หากต้องการให้การบินไทยอยู่รอด จำเป็นต้องหาช่องทางในการเพิ่มทุนให้กับการบินไทย แต่คาดว่าการกลับมาเป็นรัฐวิสาหกิจจะไม่ใช่ลักษณะเต็มรูปแบบเหมือนเดิม เพียงแต่มีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจ เพื่อให้เอาเครื่องทางการเงินมาใช้ได้ ระดมทุนได้ ค้ำประกันได้” แหล่งข่าวระบุ

อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 เมษายน ที่ผ่านมา นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ขอเข้าพบ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อรายงานปัญหาการบริหารจัดการบุคลากรและอื่น ๆ ภายในองค์กรด้วย พร้อมแจ้งข้อมูลบางส่วนว่าว่า ขณะนี้การบินไทยลดบุคลากรลงเหลือเพียง ประมาณ 16,000 คน จากเดิมกว่า 29,000 คน

นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์หลังการประชุม ว่า “ยังไม่ได้สรุปเลือกวิธีใด ยังใช้แนวทางเดิมเข้าสู่แผนฟื้นฟูตราบใดที่มูลหนี้ยังมีอยู่ขนาดนี้ มันยังมีกระบวนการของมันอยู่ ยังไม่มีแผนปรับให้เป็นสายการบินแห่งชาติแห่งใหม่ของไทย”

ผู้สื่อข่าวถามว่า การบินไทยต้องกลับมาเป็นรัฐวิสาหกิจหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่ได้หารือกัน ในวันนี้เป็นการหารือว่าแผนการฟื้นฟูนั้นไปถึงไหนแล้ว ยังไม่มีการสรุปอะไร ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการก่อน ต้องรอถึงวันที่ 12 พฤษภาคม 2564 นี้ ก่อนจึงจะสรุปได้ว่าเจ้าหนี้จะตอบรับแผนไหม

นายอนุทินกล่าวว่า ส่วนถ้าหากเจ้าหนี้ไม่รับแผนฟื้นฟู ก็สามารถกลับมาปรับแผนฟื้นฟูได้ ไม่ใช่ว่าเจ้าหนี้ไม่รับแล้ว แผนการฟื้นฟูจะจบ

เมื่อถามว่า จำเป็นต้องกลับมาเป็นรัฐวิสาหกิจหรือไม่ เพื่อให้กระทรวงการคลังค้ำประกันเงินกู้ได้ นายอนุทินกล่าวว่า เรื่องการกลับมาเป็นรัฐวิสาหกิจจะต้องชั่งน้ำหนักว่าควรกลับมาเป็นรัฐวิสาหกิจหรือไม่ ซึ่งในการประชุมวันนี้ยังไม่ได้กล่าวถึงเรื่องดังกล่าว ยังไม่มีการชั่งน้ำหนักเรื่องนี้จะสรุปกันแค่ชั่วโมงหนึ่งไม่ได้หรอก ต้องรับฟังข้อมูล แล้วให้เวลาไปคิดก่อน