“พักทรัพย์ พักหนี้” ยอดตีโอนโรงแรมล็อตแรก 750 ล้านบาท

ธปท

ธปท.เผยคืบหน้าพักทรัพย์ พักหนี้ อนุมัติตีโอนกิจการโรงแรมไปแล้ว 2 ราย วงเงิน 750 ล้านบาท ชี้ ยอดน้อย เหตุต้องใช้เวลาเจรจา-เคาะราคาตีโอน

วันที่ 17 พฤษภาคม 2564 นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) สินเชื่อฟื้นฟู และโครงการพักทรัพย์ พักหนี้ ณ วันที่ 10 พ.ค.64 ปัจจุบันธปท.อนุมัติสินเชื่อไปแล้ว 8,225 ล้านบาท จำนวนผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือ 4,454 ราย วงเงินอนุมัติเฉลี่ย 1.8 ล้านบาทต่อราย ซึ่งวงเงินเฉลี่ยต่อรายใกล้เคียงกับพ.ร.ก.สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) เดิม สะท้อนว่าการปล่อยสินเชื่อไปสู่ผู้ประกอบการรายเล็ก

ขณะที่โครงการพักทรัพย์ พักหนี้ ปัจจุบันล่าสุดธปท.ได้อนุมัติวงเงินสินเชื่อไปแล้วจำนวน 2 ราย ยอดวงเงินตีโอนทรัพย์อยู่ที่ 750 ล้านบาท ซึ่งเป็นกิจการโรงแรม อย่างไรก็ดี วงเงินดังกล่าวถือเป็นการเริ่มต้น เนื่องจากโครงการพักทรัพย์ พักหนี้อาจจะต้องใช้เวลาในการเจรจาระหว่างเจ้าหนี้และลูกหนี้ เนื่องจากมีเรื่องของราคาในการตีโอน และรายละเอียดในการพักทรัพย์ จึงต้องใช้เวลามากกว่าสินเชื่อฟื้นฟู แต่เชื่อว่าจะมีความต้องการทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

สำหรับโครงการสินเชื่อซอฟต์โลนเดิมธปท.ได้ปิดโครงการไปแล้วตั้งแต่วันที่ 12 เม.ย.64 พบว่าจำนวนสินเชื่อที่ได้อนุมัติไปแล้วอยู่ที่ราว 138,200 ล้านบาท จำนวนลูกหนี้ที่ได้รับสินเชื่ออยู่ที่ 77,787 ราย โดยธุรกิจที่ได้รับสินเชื่อจะอยู่ในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ เช่น ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ขนส่ง ร้านอาหาร โดยยอดวงเงินอนุมัติอยู่ที่ 91,965 ล้านบาท คิดเป็นจำนวน 52,179 ราย และธุรกิจอื่นๆ วงเงินอนุมัติอยู่ที่ 46,235 ล้านบาท คิดเป็นจำนวน 25,608 ราย

สำหรับความคืบหน้าการให้ควมช่วยเหลือลูกหนี้สถาบันการเงินตั้งแต่มีการระบาดของโควิด-19 พบว่าลูกหนี้ที่ได้รับความช่วยเหลือลดลงตามลำดับ โดยยอดภาระหนี้ที่ได้รับความช่วยเหลือสูงสุดอยู่ที่เดือนก.ค.63 คิดเป็นภาระหนี้อยู่ที่ 7.19 ล้านล้านบาท ซึ่งทยอยลดลงมา ณ เดือนมี.ค.64 ภาระหนี้เหลืออยู่ที่ 3.69 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 25% ของสินเชื่อรวม โดยหากดูจำนวนยอดบัญชีลูกค้าลดลงจาก 12.52 ล้านบัญชี มาอยู่ที่ 5.79 ล้านบัญชี โดยแบ่งเป็นลูกหนี้รายย่อย 4.99 ล้านบัญชี ลูกหนี้ธุรกิจเอสเอ็มอี 7.7 แสนบัญชี และลูกหนี้รายใหญ่อยู่ที่ราว 3 หมื่นบัญชี


“ธปท.มีการหารือกับสถาบันการเงินตลอดเวลาในการติดตามการดูแลช่วยเหลือลูกค้าว่ามีอะไรติดขัดและดูแลอย่างไรบ้าง และจากสถานการณ์การระบาดระลอก 3 พบว่าลูกค้ายังคงต้องการความช่วยเหลือต่อ จึงออกมาเป็นมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยระยะที่ 3 ที่ธปท.ออกมาเมื่อก่อนหน้านี้ และยังมีมาตรการสินเชื่อฟื้นฟูและพักทรัพย์ พักหนี้”