หุ้นไทยแกว่งแคบทางลง ยอดป่วยโควิดพีก จับตา ศบค.ยกระดับมาตรการ

หุ้น

ตลาดหุ้นไทยแกว่งแคบในกรอบหลักที่ยังอิงทางลงระหว่าง 1,530-1,545 จุด จับตาการระบาด COVID-19 อย่างใกล้ชิด-รอ ศบค.ยกระดับมาตรการคุมเข้ม คาดอาจขยายพื้นที่ Lockdown เป็น 25% หรือ 1 ใน 4 ของประเทศเป็นระยะเวลา 2 เดือน ชะลอความรุนแรงของสถานการณ์ รอการเข้ามาของวัคซีน mRNA ไตรมาส 4 และลดการเสียชีวิตไม่ให้เกิน 200 รายต่อวัน

วันที่ 29 กรกฎาคม 2564 บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) รายงานแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ว่า ดัชนี SET Index จะแกว่งแคบในกรอบหลักที่ยังอิงทางลงระหว่าง 1,530-1,545 จุด หลังผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ไม่เร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายและคงวงเงินการซื้อพันธบัตรในมาตรการ QE ไว้ดั้งเดิม Fed ยังคงมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐเติบโตแข็งแกร่ง แม้จะเผชิญการระบาดอีกครั้ง สำหรับเงินเฟ้อเป็นปัจจัยชั่วคราวและยังไม่ส่งสัญญาณการทำ QE Tapering ออกมา

ด้านภายในประเทศยังต้องจับตาการระบาดของ COVID-19 อย่างใกล้ชิดและรอการประเมินจาก ศบค.ว่าจะยกระดับมาตรการคุมเข้มหรือไม่ ภาพรวมตลาดจึงยังไร้ปัจจัยหนุนที่ชัดเจน ทำให้ Upside ของ SET Index จะเริ่มถูกกดต่ำลงตามการยกระดับมาตรการแต่ละครั้งที่จะกระทบโดยตรงต่อกำไรของบริษัทจดทะเบียนในครึ่งปีหลัง

กลยุทธ์การลงทุนแนะนำหุ้นรับผลกระทบจำกัดจาก COVID-19 และหุ้นรับเงินบาทอ่อนค่า

สำหรับยอดผู้ติดเชื้อในไทยยังสูง จับตายกระดับมาตรการหรือไม่ สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ในประเทศไทยยังคงรุนแรง โดยที่วันนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันและผู้เสียชีวิต ทำจุดสูงสุดใหม่กว่า 17,669 ราย และ 165 ราย ตามลำดับ ทำให้ทางฝ่ายวิจัยมองว่ารัฐบาลมีโอกาสยกระดับมาตรการคุมเข้มเพิ่มเติม แต่ในเบื้องต้นคาดว่ายังไม่ถึงขั้นใช้มาตรการอู่ฮั่นโมเดล เนื่องจากจะซ้ำเติมเศรษฐกิจในภาพรวมและบริบทของไทยไม่เหมือนกับการระบาดในจีน

อีกทั้งยังขาดความพร้อมในการรับมือในการดำเนินมาตรการ แต่มาตรการที่มีโอกาสเกิดขึ้นคือการขยายพื้นที่ Lockdown เป็น 25% หรือ 1 ใน 4 ของประเทศเป็นระยะเวลา 2 เดือน เพื่อชะลอความรุนแรงของสถานการณ์ รอการเข้ามาของวัคซีน mRNA ในไตรมาส 4 และลดการเสียชีวิตไม่ให้เกิน 200 รายต่อวัน ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อมีความเป็นไปได้ยากที่จะลดลงและจำนวนผู้ติดเชื้อจริง อาจจะสูงกว่าตัวเลขที่แสดง 8-9 เท่า หากรวมการตรวจหาเชื้อด้วย Antigen Test Kit

ในระยะสั้นทางฝ่ายวิจัยยังมองเป็นลบต่อหุ้นกลุ่มเปิดเมือง ท่องเที่ยว ธนาคาร และพลังงาน จนกว่าจะมีพัฒนาการเชิงบวกโดยเฉพาะจากการฉีดวัคซีนแล้วผู้ติดเชื้อ กับผู้เสียชีวิตลดลงจะทำให้หุ้นเหล่านี้กลับมาน่าสนใจซื้อสะสมอีกครั้ง

ด้านกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF เปิดเผยคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในรอบเดือน ก.ค. 64 โดยคาดเศรษฐกิจโลกปีนี้เติบโต 6.0% สหรัฐถูกปรับเพิ่มคาดการณ์เป็น 7.0% และในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วเฉลี่ยขยายตัวเพิ่มขึ้น 5.6% ฝั่งตลาดเกิดใหม่ถูกปรับลดคาดการณ์เหลือขยายตัว 6.3% โดยเฉพาะจีนและอินเดียที่ถูกปรับลดคาดการณ์ลงเหลือขยายตัว 8.1% และ 9.5% ตามลำดับ

ส่วนไทยถูกปรับลดคาดการณ์ลงเหลือขยายตัวเพียง 2.1% ในปีนี้ ทั้งนี้ทางฝ่ายวิจัยมองว่าผลกระทบที่ทำให้หลายประเทศโดยเฉพาะในอาเซียนถูกปรับลดคาดการณ์ลงมาจากการระบาดหนักของ COVID-19 ส่วนของสหรัฐและยุโรปยังไม่ได้รวมการระบาดใหม่ของสายพันธุ์เดลต้าเข้าไป จึงอาจขยายตัวสูงเกินจริง