ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังหลายประเทศขยายมาตรการล็อกดาวน์ ส่งผลกดดันความต้องการใช้น้ำมัน
ปัจจัยลบ ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าทั่วโลกยังคงรุนแรงต่อเนื่อง ทำให้ในช่วงที่ผ่านมาหลายประเทศทั่วโลก เช่น ญี่ปุ่น เวียดนาม ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ประกาศขยายระยะเวลาหรือกลับมาบังคับใช้มาตรการจำกัดการเดินทางอีกครั้ง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- KNLA ถอนกำลังจากเมียวดี ไปโจมตีทหารเมียนมากองพล 55 ผู้ลี้ภัยข้ามฝั่งกลับแล้ว
ปัจจัยลบ กำลังการกลั่นน้ำมันดิบของจีนในเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา อยู่ที่ระดับ 13.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นตัวเลขต่ำที่สุดในรอบ 14 เดือน โดยมีสาเหตุหลักจากการลดกำลังการผลิตของโรงกลั่นขนาดเล็ก (independent/teapot) ในประเทศ หลังปริมาณสต๊อกน้ำมันอยู่ในระดับสูงและผลกำไรปรับตัวลดลง โดยนักวิเคราะห์คาดว่ากำลังการผลิตในเดือน ส.ค. อาจปรับตัวลดลงเพิ่มเติม หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในจีนมีความรุนแรงมากขึ้น
ปัจจัยบวก หลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐ (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 13 ส.ค. 64 ปรับตัวลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 437.6 ล้านบาร์เรล ลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้เล็กน้อยว่าจะปรับตัวลดลงราว 1.1 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปสงค์น้ำมันเบนซินยังคงได้รับแรงกดดันจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าในภูมิภาค นอกจากนี้ อุปทานในน้ำมันเบนซินในภูมิภาคยังปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังโรงกลั่นในญี่ปุ่นเริ่มกลับมาดำเนินการผลิตอีกครั้งหลังจากปิดซ่อมบำรุงในช่วงก่อนหน้า
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานน้ำมันดีเซลในภูมิภาคยังคงได้รับแรงหนุนจากปริมาณการส่งออกที่เพิ่มขึ้นจากประเทศเวียดนาม หลังความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในเวียดนามได้รับแรงกดดันจากการขยายมาตรการล็อกดาวน์
ที่มา ไทยออยล์