ราคาน้ำมันดิบลดลง หลังการผลิตน้ำมันในสหรัฐเริ่มฟื้นตัวขึ้น

แท่นเจาะน้ำมัน

ราคาน้ำมันดิบลดลง หลังการผลิตน้ำมันในสหรัฐเริ่มฟื้นตัวขึ้น และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น

ปัจจัยลบ/บวก ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง เนื่องจากการผลิตน้ำมันในสหรัฐเริ่มทยอยกลับมา หลังก่อนหน้านี้ได้รับผลกระทบจากพายุเฮอร์ริเคน Ida และ Nicholas โดยล่าสุดปริมาณการผลิตที่หายไปปรับลดลงจากราว 30% ในวันก่อนหน้ามาอยู่ที่ประมาณ 23% ของกำลังการผลิตทั้งหมดในอ่าวเม็กซิโก อย่างไรก็ตาม ผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคนทำให้การผลิตหายไปกว่าราว 26 ล้านบาร์เรล และช่วยสนับสนุนให้ราคายืนในระดับสูงในช่วงที่ผ่านมา

ปัจจัยลบ ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังบริษัทน้ำมันในสหรัฐเพิ่มการขุดเจาะขึ้น ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น โดย Baker Hughes รายงานปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบสำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 17 ก.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 10 แท่นมาอยู่ที่ระดับ 411 แท่น ซึ่งเป็นระดับที่สูงสุดนับตั้งแต่ เม.ย. 63

ปัจจัยลบ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบหลายสัปดาห์และส่งผลกดดันต่อราคาน้ำมันต่อเนื่อง หลังตัวเลขยอดค้าปลีกสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้และเพิ่มขึ้น 0.7% จากเดือนก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นถึงเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงเติบโตต่อเนื่อง

ราคาน้ำมันเบนซิน

ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังถูกกดดันจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงหนุนจากความต้องการใช้ของจีนที่มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นในช่วงวันหยุดชาติจีนในช่วงต้นเดือน ต.ค.

ราคาน้ำมันดีเซล

ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปทานในภูมิภาคที่ลดลง โดยเฉพาะจากจีนที่มีแนวโน้มปรับลดการส่งออกลง นอกจากนี้ ราคายังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น

ที่มา ไทยออยล์