พิษน้ำมันแพง กระทบ SMEs มาร์จิ้นร่วง

น้ำมัน-1
คอลัมน์ สมาร์ทเอสเอ็มอี
ttb analytics

 

จากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบดูไบปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากต้นปี 2564 จนถึงปัจจุบัน ส่งผลทำให้ราคาน้ำมันสำเร็จรูปขายปลีกปรับตัวเพิ่มขึ้น และมีผลกระทบต่อต้นทุนการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs อย่างมาก ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics วิเคราะห์แนวโน้มราคาน้ำมันดิบดูไบคาดว่าในปี 2564-2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หรือปรับขึ้น 65% จากปี 2563 ซึ่งจะทำให้แนวโน้มราคาขายปลีกน้ำมันสำเร็จรูปในประเทศปรับเพิ่ม 25% เฉลี่ยจะอยู่ที่ 27.8 บาทต่อลิตรในปี 2564-2565

เมื่อวิเคราะห์ผลกระทบการปรับขึ้นของราคาน้ำมันสำเร็จรูปต่อภาคธุรกิจ SMEs ด้วยการพิจารณาโครงสร้างอัตรากำไรของผู้ประกอบการ SMEs พบว่าระดับราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่มีแนวโน้มปรับสูงขึ้น 25% ในปี 2564-2565 ตามราคาน้ำมันดิบโลกที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลทำให้ภาพรวมธุรกิจ SMEs มีอัตรากำไรหรือมาร์จิ้นลดลงประมาณ 1.8%

โดยกลุ่มธุรกิจ SMEs ที่มาร์จิ้นลดลงมากคือ ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ (ลด 10.8%) รองลงมาได้แก่ ธุรกิจอุตสาหกรรม (ลด 2.2%) ธุรกิจเกษตร (ลด 1.9%) ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง (ลด 1.6%) ธุรกิจบริการ (ลด 0.9%) และธุรกิจการค้า (ลด 0.3%) ตามลำดับ

นอกจากนี้ พบว่าผู้ประกอบการ SMEs ในธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ที่ได้รับผลกระทบสูงสุด เนื่องจากต้นทุนส่วนใหญ่มาจากน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งมีจำนวน SMEs ในธุรกิจดังกล่าวจำนวน 77,211 ราย แบ่งเป็นผู้ประกอบการรายย่อย (micro SMEs) จำนวน 58,482 ราย

รองลงมาเป็นผู้ประกอบการขนาดย่อม (small) จำนวน 16,567 ราย และผู้ประกอบการขนาดกลาง (medium) จำนวน 2,162 ราย ในขณะที่กลุ่มธุรกิจ SMEs อื่น ๆ ต่างได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน แต่อาจไม่หนักเท่ากับผู้ประกอบการ SMEs ในธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการ SMEs กลุ่มธุรกิจอื่น ๆ มีความเป็นไปได้ที่จะได้รับผลกระทบทางอ้อมจากการปรับขึ้นราคาของค่าขนส่งสินค้าที่เพิ่มขึ้นได้ หากต้นทุนค่าน้ำมันของผู้ขนส่งสูงขึ้นเกินกว่าที่จะแบกรับไหว

ระดับราคาน้ำมันที่สูงขึ้นย่อมส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ SMEs อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สิ่งที่ผู้ประกอบการสามารถดำเนินการได้คือ 1.การวางแผนจัดการขนส่งสินค้าทั้งส่วนของวัตถุดิบที่เข้ามาสู่โรงงานเพื่อทำการผลิต และการขนส่งเพื่อการจำหน่ายสินค้าที่ผลิตเสร็จแล้วส่งถึงลูกค้า จะทำอย่างไรให้การขนสินค้าคุ้มค่าต่อการขนส่งในแต่ละครั้ง และ 2.หากราคาน้ำมันปรับขึ้นและกระทบกำไรของธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญ

ผู้ประกอบการควรพิจารณาเจรจากับคู่ค้าขอปรับขึ้นราคาให้สอดคล้องกับค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้น เพื่อให้ธุรกิจสามารถเดินต่อไปได้

สำหรับภาครัฐเพื่อไม่ให้กระทบค่าครองชีพของประชาชน อันเนื่องมาจากการที่ผู้ประกอบการขึ้นราคาสินค้าเพราะค่าขนส่งเพิ่มขึ้น ดังนั้น ในยามที่ราคาน้ำมันพุ่งสูงเกินไปควรพิจารณาตรึงราคาน้ำมันสำเร็จรูปภายในประเทศ ซึ่งจะช่วยบรรเทาผลกระทบของผู้ประกอบการ SMEs และของประชาชนได้อีกทางหนึ่ง