บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด รายงานราคาทองคำประจำวันที่ 11 พฤศจิกายน 2564
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
สรุป ราคาทองคำวานนี้ปิดทะยานขึ้น 17.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ หลังจากวานนี้สหรัฐเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 6.2% ในเดือน ต.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค. 1990 สถานการณ์ดังกล่าวหนุนความคาดหวังเงินเฟ้อในอีก 5 ปี (5 year breakeven inflation rate) ให้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 3.113% ส่วนความคาดหวังเงินเฟ้อในอีก 10 ปี (10 year breakeven inflation rate) เพิ่มขึ้นแตะระดับ 2.72% ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือน พ.ค. 2006 จนกดดันให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อ Treasury Inflation Protected Securities (TIPS) อายุ 10 ปีและอายุ 30 ปีดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ใม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ย นั่นทำให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นทะลุผ่านแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,833 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นระดับสูงสุดของเดือน ก.ค., ส.ค.และ ก.ย. จนกระตุ้นแรงซื้อตามทางเทคนิค (Buy stop และ Short covering) และเป็นที่มาสำคัญที่หนุนให้ราคาทองคำทะยานขึ้นอย่างรวดเร็วจนทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,868.16 ดอลลาร์ต่อออนซ์
อย่างไรก็ดี ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจเร่งการปรับลดวงเงิน QE และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันให้เกิดแรงขายทำกำไรสลับออกมา ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับวันนี้ภาคธนาคารรวมถึงตลาดพันธบัตรของสหรัฐจะปิดทำการเนื่องในวันทหารผ่านศึก (Veterans Day) แต่ตลาดทุน ตลาดเงินและตลาดทองคำนิวยอร์กยังคงเปิดทำการตามปกติ
คำแนะนำ หากราคาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,840-1,833 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เปิดสถานะซื้อ (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,833 ดอลลาร์ต่อออนซ์) หากราคาปรับตัวขึ้นไม่ผ่านบริเวณ 1,862-1,868 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจพิจารณาการปิดสถานะซื้อแต่หากผ่านได้สามารถถือสถานะซื้อต่อ