KUB และ JFIN พุ่งทำ All Time High เป็นประวัติการณ์ในช่วงเวลาไม่กี่วัน เหล่านักเทรดคริปโทฯไทย วิเคราะห์ความร้อนระอุนี้อย่างไรกันบ้าง แม้ล่าสุดวันนี้ (30 พ.ย.) ราคาร่วงแล้ว
วันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แวดวงคริปโทเคอร์เรนซีช่วงในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีสกุลเหรียญสัญชาติไทยหลายสกุล ที่มีการซื้อขายอยู่บนแพลตฟอร์ม บิทคับ ออนไลน์ ราคาพุ่งขึ้นทำ All Time High (ATH) 2 เหรียญจากในนั้น คือ KUB (Bitkub Coin) และ JFIN (Jfin Coin)
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
ข้อมูลจาก บิทคับ แพลตฟอร์มซื้อ-ขาย คริปโทเคอร์เรนซี เผยว่า KUB เริ่มปรับตัวขึ้นตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน จากระดับราคา 114 บาทไปทำ ATH ที่ระดับราคา 500 บาท ก่อนปิดแท่งกราฟ 1 วันที่ระดับราคา 455 บาท
ด้าน JFIN เริ่มมีแรงซื้อเข้ามา ตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน จากนั้นก็ค่อย ๆ ปรับตัวขึ้นจากระดับราคา 15 บาท สู่ระดับราคา 187 บาท นับเป็นการทำ ATH ในวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมานี้ ด้วยแรงซื้อที่ล้นทะลักทำให้ราคา JFIN พุ่งกระฉูด
ด้านเหล่านักเทรดคริปโทฯในไทยได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ว่า ทำไมเหรียญสัญชาติไทยทั้ง 2 ตัว ถึงพุ่งแตะจุดสูงสุดในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน
“สรุปให้ในภาพเดียวว่าทำไมเหรียญ KUB ราคาขึ้นเรื่อย ๆ ในเวลาไล่เลี่ยกัน หลังจากที่ บิทคับ ขายกิจการให้กับ SCBX (ขอใช้คำว่าขายนะเพราะขายหุ้นไปเกิน 50% เท่ากับหมดสิทธิความเป็นเจ้าของ) ก็เริ่มเห็นการกินรวบ ในหลาย ๆ ด้าน และอีกหลายอย่างที่ ก.ล.ต. เคยห้ามว่าไม่ให้ทำ และห้ามคนไหนทำทั้งนั้น
ไม่ว่าจะเป็น payment เอาเหรียญจ่ายแทนเงินจริง เพราะไปขัดกฏหมายทางการเงิน มองว่าคริปโทฯคือสินทรัพย์เท่านั้น ใช้แทนเงินไม่ได้ และไม่ว่าจะเป็น NFTs ที่บอกว่าห้ามเด็ดขาดจนถึงเรื่อง Token ที่ห้ามทำ สุดท้ายหลังจากที่ SCBX มาเป็นเจ้าของแล้ว ทั้งหมดที่ว่ามาก็ทำได้โดยไม่มีใครคนไหนอ้าปากค้านอะไรเลยสักแอะเดียว”
หรืออีกความเห็นในโซเชียลมีเดียที่ระบุว่า
“หิวลาบเลือดจังเลย KUB”
KUB & JFIN หลังจากการดีลกันระหว่าง KUB x SCBX วงการคริปโทเมืองไทยก็คึกคักขึ้นมาจากบรรดาเสือ สิงห์ กระทิง แรด ในตลาดหุ้นไทย โยกเงินมาเล่นกันสนุกสนาน หลายวันที่ผ่านมาพากันเพ้อถึงแต่ KUB กับ JFIN ว่าเข้าแล้วจะถือยาวยันลูกบวช
“ผมไม่ได้หมิ่นเหรียญไทยนะครับ แต่จะหุ้นหรือคริปโทที่มันขึ้นเป็นเส้นตรงเนี่ย เวลาเราเห็นอย่าไปมือสั่นตามครับ ให้จิบกาแฟ ดูซีรีส์รอมันวิ่งหาฐานก่อนครับ ถ้าคิดจะเล่น หรือถ้าทนไม่ได้จริง ๆ อยากเล่นพอให้คุยกับเพื่อนรู้เรื่อง เล่นแค่ค่าหมูกระทะสักมื้อพอครับ ไม่ใช่เห็นพุ่งแรง ๆ แล้วใส่เต็มข้อล่อเต็มแข้ง เวลามันปรับฐานมาจะน้ำตาซึม
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าจะอะไรก็ช่าง ถ้ามันวิ่งเป็นเส้นตรง ปล่อยมันวิ่งไปครับ รอมันปรับฐานให้มั่นคงค่อยคิดอีกที หรือใช้หลักง่าย ๆ ข่าวดีให้ขาย ข่าวร้ายให้ซื้อ ก็เอาตัวรอดได้นะ KUB”
เว็บไซต์ Cryptosiam รายงานว่า เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา กวิน กาญจนพาสน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) เผยว่า บริษัทกำลังร่วมมือกับ บมจ.เจ มาร์ท (JMART) เพิ่มช่องทางการชำระเงินใช้บริการรถไฟฟ้า BTS ด้วยการใช้ Jfin Coin ชำระค่าบริการต่าง ๆ ในเครือ ในช่วงต้นปีหน้า เช่น การใช้เหรียญในการชำระค่าบริการธุรกิจโรงแรมในเครือ, การใช้เหรียญเพื่อเติมเงินในบัตรแรบบิทในการชำระค่าเดินทางด้วยรถไฟฟ้าของ BTS หรือการชำระราคาสินค้า เป็นต้น
นอกจากนี้ ในวันพรุ่งนี้ (1 ธ.ค.) บิทคับ จะทำการปลดล็อกเหรียญ KUB อีกจำนวนกว่า 2 ล้านเหรียญ เหล่านักเทรดคริปโตฯ ก็ได้ชวนกันจับตามองความเคลื่อนไหวครั้งนี้ ว่าจะส่งผลอย่างไรต่อกระดานเทรดคริปโทไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 เวลา 11.30 น. ราคาเหรียญ KUB ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 320 บาท และ JFIN ก็ปรับตัวลงมาอยู่ในระดับราคา 135 บาท เช่นเดียวกัน
