CEO บิทคับ ชี้หากโควิดไม่ซา หนุนเงินเข้าตลาดคริปโทฯ มหาศาล

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบิทคับ ชี้ตลาดคริปโทเคอร์เรนซี ปี’65  มีโอกาสเติบโตอีกมากกว่าเท่าตัว หากโควิด-19 ยังไม่มีทีท่าว่าจะคลี่คลาย

วันที่ 12 มกราคม 2565 นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา Group CEO ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ กล่าวในงานเสวนาของ ม.หอการค้าไทย เกี่ยวกับแนวโน้มการลงทุน ปี 2565 เจาะลึกหุ้นไทยหุ้นต่างประเทศและคริปโทเคอร์เรนซี ว่า

หากย้อนกลับไปในปี 2564 อาจเรียกได้ว่าเป็นปีทองที่แท้จริงสำหรับวงการคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งโดยมูลค่าของเหรียญคริปโตในหลายสกลุเอง รวมถึงจำนวนของผู้ใช้งานที่เข้าสู่วงการนี้อย่างก้าวกระโดดขึ้นมาจากในปี 2563 หลายเท่าตัว

โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้วงการ คริปโทเคอร์เรนซีเติบโตได้เช่นนี้ เป็นผลเนื่องมาจากการที่คนทั่วโลกตื่นตัวกับกับเทรนด์การมาของสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital asset) มากขึ้น โดยแนวโน้มดังกล่าว กำลังจะขยายตัวสู่การเป็นสินทรัพย์ทั้งหมด (all  asset) ที่เราสามารถอัปโหลดสินทรัพย์ต่าง ๆ เข้าไปสู่โลกออนไลน์ซึ่งทำให้เศรษฐกิจโลกพัฒนาสู่เศรษฐกิจดิจิทัล

จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา

ซึ่งผู้คนไม่จำเป็นต้องจับต้องสินทรัพย์เหล่านั้น ด้วยการมาของเทคโนโลยีบล็อกเชนที่จะเข้ามาปฏิวัติ โดยในทุก ๆ 10 ปี จะมีการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีซึ่งจะส่งผลต่อธุรกิจ เศรษฐกิจ สังคม โดยเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนกำลังจะผ่านไป

และตั้งต้นตั้งแต่ปี 2563-2573 จะเป็นยุคแห่งการเริ่มต้นของ “เว็บ 3.0” ถือเป็นความก้าวหน้าของระบบอินเตอร์เน็ตที่บทบาทการกำหนด ควบคุมระบบต่าง ๆ จะไม่ได้เป็นของผู้ใดผู้หนึ่ง แต่จะกลายเป็นบทบาทการควบคุมของผู้ใช้งานทั่วโลก

กล่าวคือทุกคนมีสิทธิ์ในฐานะเจ้าของและมีส่วนร่วมกับเทคโนโลยีที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงนั่นเอง ซึ่งจะเกิดขึ้นพร้อมกับการมาถึงของบล็อกเชน, internet of thing, AI, VR และ Metaverse เป็นต้น ในขณะที่ภาพรวมตลาดคริปโตในปี 2564 ที่ผ่านมามีการเติบขึ้นถึง 3 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นมูลค่าที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ก่อนจะย่อตัวลงเหลือประมาณ 2.5-2.6 ล้านล้าน

ซึ่งหากทิศทางสถานการณ์ของโควิด-19 ยังไม่มีทีท่าว่าจะคลี่คลาย รัฐบาลในหลายประเทศต้องเร่งอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเพื่อประคองสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ทำให้มีเม็ดเงินมหาศาลเข้าสู่สินทรัพย์ชนิดต่าง ๆ ซึ่งส่งผลดีต่อตลาดคริปโต ที่อาจมีเม็ดเงินบางส่วนไหล่เข้าสู่สินทรัพย์ชนิดนี้ และอาจทำให้ตลาดคริปโทเคอร์เรนซี มีโอกาสเติบโตขึ้นได้อีกมากกว่าเท่าตัวในปี 2565 นี้

“ถึงแม้ว่าจะมีเม็ดเงินเข้าสู่ตลาดคริปโตสูงถึง 3 ล้านล้านดอลลาร์ แต่ก็ยังถือว่าเล็กมากเมื่อเปรียบเทียบกับสินทรัพย์ชนิดอื่น ๆ แต่ในระยะยาว เมื่อความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเติบโตขึ้น และสังคมโลกก้าวสู่เว็บ 3.0 อย่างแท้จริง ก็จะทำให้ Digital asset เป็นที่ยอมรับมากขึ้น ตลาดคริปโตจะขยายตัวขึ้น มีความก้าวหน้ามากกว่าในปัจจุบันแน่นอน”

คุณจิรายุส กล่าวย้ำถึงแนวโน้มของคริปโทเคอร์เรนซีในอนาคต ชี้ให้เห็นว่า หากใครยังยึดติดอยู่กับเทคโนโลยีเดิม ๆ โดยที่ไม่ปรับตัวเข้าสู่เทรนด์ที่ไม่มีทีท่าจะหยุดนิ่ง ก็ย่อมเสียผลประโยชน์และมีโอกาสกับทางรอดน้อยลงไป ท่ามกลางสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น” ซีอีโอบิทคับกล่าว