แบงก์ประเมินกรอบเงินบาทเคลื่อนไหว 31.80-32.40 บาทต่อดอลลาร์ จับตาประเด็นรัสเซีย-ยูเครน กระทบฟันด์โฟลว์-ราคาทองคำในตลาดโลก เผยเงินบาทมีโอกาสหลุด 32.00 บาทต่อดอลลาร์ พร้อมเกาะติดตัวเลขจีดีพี-ส่งออกและนำเข้าไทย
วันที่ 20 กุมภาพันธุ 2565 นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กรอบเงินบาทสัปดาห์หน้า (วันที่ 21-25 กุมภาพันธ์ 65) เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.00-32.40 บาทต่อดอลลาร์ โดยประเด็นที่ต้องติดตามจะเป็นเรื่องความขัดแย้งระหว่างประเทศรัสเซียและยูเครน ซึ่งจะมีผลต่อกระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย (ฟันด์โฟลว์) และราคาทองคำในตลาดโลก ซึ่งจะมีแรงกดดันต่อค่าเงินบาทให้มีความผันผวน
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส ไทย และหลายชาติ ออกแถลงการณ์ร่วม เรียกร้องปล่อยตัวประกันในกาซา
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในประเทศจะเป็นการรายงานตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไตรมาสที่ 4 และปี 2564 ของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์ฯ) รวมถึงตัวเลขการส่งออกและนำเข้าในเดือนมกราคม 2565 คาดว่าตัวเลขจะออกมาค่อนข้างดี
นอกจากนี้ จะมีตัวเลขจีดีพีไตรมาสที่ 4/2564 ของสหรัฐฯ ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าจะออกมาค่อนข้างดี แต่สิ่งที่ตลาดจับตามองจะเป็นตัวเลขอัตราการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล หรือ PCE เดือนมกราคม 2565 ซึ่งจะเป็นตัวเลขที่เป็นประเด็นให้ตลาดมีความผันผวนได้
สำหรับกระแสฟันด์โฟลว์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า ตลาดหุ้นนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิราว 1.1 หมื่นล้านบาท ส่วนตลาดพันธบัตร (บอนด์) ซื้อสุทธิประมาณ 8,500 ล้านบาท
ทั้งนี้ คาดการณ์ฟันด์โฟลว์ในสัปดาห์หน้าโดยรวมยังคงเห็นไหลเข้าอยู่ ส่งผลให้เงินบาทยังมีทิศทางแข็งค่า ซึ่งตลาดบอนด์ยังคงเห็นไหลเข้าบอนด์ตัวยาว ส่วนตัวสั้นยังคงเห็นแรงเทขายกำไร ทำให้โดยรวมไหลเข้าตลาดบอนด์ลดลงเล็กน้อย ขณะที่ตลาดหุ้นเริ่มเห็นสัญญาณเทขายทำกำไร และยังคงต้องลุ้นประเด็นรัสเซีย-ยูเครน จะไปในทิศทางใด แต่โดยรวมยังคงเป็นไหลเข้าสุทธิ
“ปัจจัยหลักต้องติดตามและมีผลต่อภาวะตลาด คือ ประเด็นรัสเซีย-ยูเครน หากสถานการณ์อึมครึมจะนิ่งกดดันตลาด ซึ่งมีผลต่อฟันด์โฟลว์และราคาทองคำที่อาจไปอยู่ที่ 1,800-1,840 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำให้บาทแข็งค่าได้ ส่วนกรณีที่หลุด 32 บาทต่อดอลลาร์ หากรัสเซียและยูเครนจบ ดอลลาร์อ่อนค่าลง ทองคำมีการเทขายทำกำไร”
นางสาวรุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการสายงานวางแผนโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กรอบเคลื่อนไหวในสัปดาห์หน้าอยู่ที่ 31.80-32.40 บาทต่อดอลลาร์ โดยอาจเห็นเงินบาทมีโอกาสหลุด 32.00 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งขึ้นอยู่กับความต่อเนื่องของกระแสเงินทุนไหลเข้า และราคาทองคำในตลาดโลก โดยช่วงนี้ราคาทองคำทดสอบ 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจจะต้องติดตามดูว่าราคายังไปต่อหรือไม่
สำหรับข้อมูลที่ต้องติดตามและน่าสนใจ จะเป็นข้อมูลตัวเลขจีดีพีไทยปี 2564 โดยธนาคารกรุงศรีอยุธยาประเมินอัตราการขยายตัวจะอยู่ที่ 1.2% และในปี 2565 คาดเติบโต 3.7% รวมถึงติดตาม ตัวเลขส่งออกนำเข้าเดือนมกราคม 2565 ขณะที่ของสหรัฐฯ จะมีข้อมูลการใช้จ่ายบริโภคส่วนบุคคล
ตลอดจนสถานการณ์ความตึงเครียดในยูเครน สร้างความผันผวนรายวัน ขณะที่นักลงทุนหลีกเลี่ยงความเสี่ยง แต่ราคาทองคำที่พุ่งขึ้น กลับทำให้เงินบาทแข็งค่ามากขึ้นไปอีก โดยผู้ค้าทองในประเทศส่งออกทอง
“ตลาดคาดการณ์มากขึ้นเกี่ยวกับการคุมเข้มนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และเม็ดเงินไหลออกจากหุ้นเทค เข้าสู่สินทรัพย์ตลาดเกิดใหม่ เช่น ไทย ซึ่งเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวในปีนี้ อย่างไรก็ดี ธนาคารยังคงมองอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับกระแสเงินร้อนที่จะสร้างความผันผวนให้กับตลาด”